User Online ( 6 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » เอชพีปฏิรูปไฮเอนด์เซิร์ฟเวอร์ลงรากหญ้า
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

เอชพีปฏิรูปไฮเอนด์เซิร์ฟเวอร์ลงรากหญ้า

เอชพีมองการณ์ไกล ชิงปฎิรูปไฮเอนด์เซิร์ฟเวอร์ระบบ mission-critical รองรับซีพียู x86 ก่อนคู่แข่ง หลังแนวโน้มตลาดเน้นลดต้นทุน

นายเอเทน ลิม ผู้อำนายการ Business Critical Systems เอชพี เอนเตอร์ไพรซ์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าระบบ ไอทีที่รองรับการใช้งานในระดับ mission-critical ที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันส่วนใหญ่จะใช้ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์หรือไม่ก็เป็นเครื่องในระดับเมนเฟรม ซึ่งเป็นอยู่ในระดับไฮเอนด์ เอนเตอร์ไพรซ์ที่มีการลงทุนที่สูง ทำให้ต้องใช้หน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงโดยส่วนใหญ่เป็นตลาดของซีพียู ที่ใช้สถาปัตยกรรม อาร์ไอเอสซี (Reduced instruction set computing) และซอฟต์แวร์ก็ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อใช้ร่วมกับระบบปฏิบัติการยูนิกซ์

ทั้งนี้ลูกค้าเอชพีทั่วโลก ต่างต้องการให้ขยายความสามารถของคอมพิวเตอร์ในระดับ mission-critical ซึ่งเดิมจะจำกัดอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ตระกูล HP Integrity ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ เอชพี-ยูเอ็กซ์ ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ซีพียูตระกูล x86 ด้วย เนื่องจากความได้เปรียบเรื่องของราคาและประสิทธิภาพ

'แนวโน้มนี้เห็นได้ชัดจากตัวเลขไอดีซีเมื่อปี 2553 ที่มูลค่าการลงทุนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ซีพียู x86 มีถึง 32 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปี 2545 ที่มีเพียง 19 พันล้านเหรียญ ขณะที่เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ซีพียูอาร์ไอเอสซี ลดลงเหลือ 15 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปี 2545 ที่มีถึง 32 พันล้านเหรียญ'

จากความต้องการดังกล่าว ทำให้เอชพีเริ่มโครงการ โอเดสซี่ (Odyssey) เพื่อเปิดมิติใหม่ให้กับระบบไอทีในอนาคต ซึ่งเป็นโรดแมปผลิตภัณฑ์ระดับ mission-critical ที่ผนวกรวมสถาปัตยกรรมเซิร์ฟเวอร์ยูนิกซ์และ x86 เข้าไว้ด้วยกัน

โรดแมปดังกล่าว มีทั้งเซิร์ฟเวอร์ตระกูล HP Integrity และ HP NonStop และระบบปฏิบัติการแบบเอชพี-ยูเอ็กซ์ และโอเฟ่นวีเอ็มเอส ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาเบลดเซิร์ฟเวอร์ที่มากับหน่วยประมวลผล อินเทล ซีนอล เพื่อใช้กับเซิร์ฟเวอร์ เอสพี ซูปเปอร์โดม 2 ซึ่งมีรหัสว่า DragonHawk และเบรดเซิร์ฟเวอร์แบบ c-Class blade enclosure ที่มีรหัสว่า HydraLynx ที่สามารถปรับขยายได้ ให้รองรับกับการทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์และลีนุกซ์ และยังได้ดึงนวัตกรรมที่เป็นจุดเด่นที่คู่แข่งในตลาดในเซิร์ฟเวอร์ เอชพี-ยูเอ็กซ์มาผนวกเข้าด้วยกันภายใน 2 ปีข้างหน้า

นายรุ่งโรจน์ เมธีดุลสถิต ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Business Critical Systems กลุ่มธุรกิจเอนเตอร์ไพรซ์ บิสิเนส เอชพี (ประเทศไทย) กล่าวว่า โครงการนี้นำความต้องการของผู้บริโภคมาขยายขีดความสามารถของเซิร์ฟเวอร์ ด้วยการนำจุดเด่นทางด้านความยืดหยุ่นของเซิร์ฟเวอร์ เอชพี เบลดเซิร์ฟเวอร์ แบบโมดูล่าร์ ผสมผสานกับนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับเอนเตอร์ไพรซ์ที่สำคัญของเอชพี ทั้งจากเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity และระบบปฏิบัติการ เอชพี-ยูเอ็กซ์ลงไปยังแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ x86 ให้รองรับการทำงานที่มีความสำคัญระดับ mission-critical ได้ด้วย

'เวลานี้ บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใหญ่ๆ อย่างแอมด็อก เริ่มออกซอฟต์แวร์ของตนที่สนับสนุนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์เพิ่มขึ้น แน่นอนว่า ความต้องการสถาปัตยกรรมของเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับระบบปฏิบัติการดังกล่าวโดย ยังคงความเสถียรและประสิทธิภาพในงาน mission-critical เกิดขึ้นตามมา แต่เดิมไม่เคยไม่ใครที่จะให้โซลูชันแบบนี้ได้ ซึ่งเอชพีเป็นรายแรกที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการดังกล่าววันนี้และในปีหน้า เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบออกมา'
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.