"ซิสโก้"เร่งปรับรูปแบบทำธุรกิจใหม่ ทั้งร่วมทุน-ลงทุนกับพันธมิตร เปิดบริการเช่าใช้เทคโนโลยีบนคลาวด์ คาด 3 ปี รายได้เท่ายอดขายอุปกรณ์เครือข่าย พร้อมช่วยดันนครนายกนำร่องจังหวัดอัจฉริยะ ระบุน้ำท่วมทำตลาดชะลอลงทุนเล็กน้อย วางเป้าปีงบประมาณ 2555 โต 15%
ดร.ธัชพล โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่จากผู้ผลิตและ จำหน่ายอุปกรณ์เครือข่าย หรือเน็ตเวิร์ก ไปสู่ธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่มุ่งเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการ หรือ เซอร์วิสโพรไวเดอร์ ในการให้บริการใหม่ๆ บนเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยมีรูปแบบการร่วมมือที่หลากหลาย ทั้งการร่วมทุน หรือ การร่วมลงทุนให้บริการและแบ่งรายได้ร่วมกัน ขณะที่ลักษณะบริการก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเช่าใช้แล้วจ่ายเป็นรายเดือน หรือ การคิดค่าบริการเมื่อเปิดใช้งาน
"ขณะนี้ได้ร่วมมือกับพันธมิตร คือ ฮาตาริ เปิดบริการเช่าใช้ป้ายโฆษณาดิจิตอล หรือ ดิจิตอลไซเนจ ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ โดยบริการนี้ ฮาตาริ เป็นผู้ลงทุนติดตั้งตามสถานที่สำคัญ อาทิ ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ คอนวีเนียนสโตร์ ประมาณ 1,000 จอภาพ ขณะที่บริษัทจะเป็นผู้ลงทุนอุปกรณ์เครือข่ายในการเชื่อมต่อกับจอภาพทั้ง หมด นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้บริการเช่าใช้ระบบประชุมทางไกล เทเลเพเซนต์ และมีแผนร่วมมือกับพันธมิตรในการเช่าใช้ศูนย์สำรองข้อมูลแห่งที่ 2 บนเทคโนโลยีคลาวด์ ซึ่งจุดแข็งที่สำคัญของซิสโก้ คือเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายทั้งแบบมีสาย และไร้สาย ซึ่งขณะนี้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจรูปแบบใหม่ คิดเป็น 1 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมด คาดว่าภายใน 3 ปี รายได้ระหว่างการขายอุปกรณ์เครือข่าย และธุรกิจใหม่ที่มุ่งการร่วมลงทุนให้บริการกับพันธมิตรจะมีสัดส่วน 50: 50"
สำหรับภาพรวมของตลาดอุปกรณ์เครือข่ายในปี 2555 นั้นองค์กรขนาดใหญ่ และธนาคาร ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ทำให้ตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนธุรกิจขนาดกลางและเล็ก หรือ เอสเอ็มอีนั้น ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเอสเอ็มอีส่วนใหญ่จะมีสายป่านสั้น ทำให้ต้องชะลอการลงทุนออกไป อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายหรือได้รับการสนับสนุนภาครัฐเพื่อช่วยเหลือหรือฟื้นฟู เอสเอ็มอี ส่วนภาครัฐจะมีเม็ดเงินลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการกระจายงบประมาณสู่ท้องถิ่นผ่านทางองค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีการลงทุนส่วนของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาทิ โครงการสมาร์ทไทยแลนด์ ที่จะมีการลงทุนในส่วน อี-โกเวิร์นเมนต์ คลาวด์ หรือ โครงการนำร่องจังหวัดอัจฉริยะ ที่นครนายก
"ขณะนี้เริ่มเข้าไปให้ข้อมูลกับภาครัฐในการจัดทำโครงการนำร่องจังหวัด อัจฉริยะแล้ว โดยบริษัทมีประสบการณ์ในการเมืองอัจฉริยะ ในหลายประเทศ ทั้งเมืองอัมสเตอร์ดัม และอินชอน ซึ่งก็พร้อมร่วมมือกับจังหวัดนครนายก จัดทำโครงการนำร่อง โดยอาจเข้าไปร่วมลงทุนในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับอีโกเวิร์นเมนต์"
ทั้งนี้ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลตัดงบประมาณการลงทุนไปประมาณ 10% ส่งผลให้หลายโครงการชะลอการลงทุนออกไป ทำให้ผลประกอบการของบริษัทครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2555 (เริ่ม ส.ค. 54-ม.ค..55) เติบโตประมาณ 11% จากเดิมตั้งเป้าไว้ 15% อย่างไรก็ตามคาดว่าในครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2555 (เริ่ม ก.พ.-ก.ค.55) จะสามารถผลักดันยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 15%