"อีเอ็มซี" ปรับกลยุทธ์ชิงส่วนแบ่งตลาดเอสเอ็มอี ชู "ยูนิไฟด์ สตอเรจ" เป็นเรือธง พร้อมเสริมทัพช่องทางจำหน่ายใหม่ไม่น้อยกว่า 40 ราย

ย้ำแผนชิงอันดับหนึ่งตลาดไทย ภายใน 3 ปี

นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ทิศทางการทำตลาดของบริษัทจะเน้นขยายฐานสู่กลุ่มผู้ใช้ในระดับเอสเอ็มอี โดยใช้โซลูชั่นยูนิไฟด์ สตอเรจ "วีเอ็นเอ็กซ์อี" เป็นเรือธง โดยจะเพิ่มคู่ค้าเข้ามารองรับอีก 40-50 ราย

“เราพบว่าการลงทุนด้านไอทีของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มที่ดี ประกอบกับเทรนด์ของตลาดชี้ให้เห็นว่าเอ็กซ์เทอร์นอล สตอเรจ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดระดับล่าง คาดว่าปีนี้จะมียอดขายไม่น้อยกว่า 100 กล่อง”

เขากล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดของอีเอ็มซี เน้น 2 ส่วนหลัก คือ 1. ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้เกิดการใช้งานเพิ่มขึ้นในฐานลูกค้าเดิม 2. เข้าชิงส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มลูกค้าใหม่ ช่วยเตรียมความพร้อมด้านอินฟราสตรักเจอร์ตอบโจทย์ความต้องการการลงทุนครบทุก สายผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะคลาวด์ คอมพิวติ้ง เวอร์ชวลไลเซชั่น และบิ๊ก ดาต้า ตามการเติบโตของข้อมูลดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในแต่ละปี

นอกจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เป็นฐานลูกค้าเดิมของบริษัท ซึ่งยังมีแนวโน้มลงทุนต่อเนื่องอยู่แล้ว เช่น สถาบันการเงินการธนาคาร ปีนี้จะเพิ่มโฟกัสเข้าไปที่ตลาดใหม่ๆ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการ และยูทิลิตี้ ตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้เริ่มเพิ่มทีมงานเพื่อรองรับการขยายตัวไปแล้ว 20% ในจำนวนนี้เป็นพนักงานด้านเซอร์วิสมากกว่าครึ่งหนึ่ง

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปี 2553 ผลประกอบการอีเอ็มซีปี 2554 เติบโตขึ้น 5% แต่กลุ่มสตอเรจเติบโตถึง 13% ปี 2555 ตั้งเป้าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 6% ภายใน 3 ปีจากนี้หวังครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ตลาดสตอเรจไทย

"ปีที่แล้ว ที่รายได้ของเราไม่ถึงเป้าตัวเลข 2 หลักเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี ที่ทำให้การสั่งซื้อช่วงปลายปีชะลอตัวลง ส่วนปีนี้มองในเชิงบวกมั่นใจว่ากลุ่มสตอเรจจะทำได้ดีเหมือนเดิม"

อย่างไรก็ตาม คาดว่า ภาพรวมการใช้จ่ายไอทีในไทยจะเติบโตขึ้นอีกราว 6% วิกฤติการเงินที่ยุโรปและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่อเมริกาจะไม่ส่งผลมากนัก ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ที่ระบุว่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 2555 จะเติบโตขึ้นอีก 3-5% เฉพาะเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่มขึ้น 7.3% สูงที่สุดหากเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ

ขณะที่เทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรง 5 อันดับแรก คือ 1. เน็ตเวิร์ค ผลิตภัณฑ์ประเภท ไฟร์วอลล์ ยูทีเอ็ม และไอพีเอส 2. เวอร์ชวลไลเซชั่น 3. สตอเรจ 4.ไพรเวท คลาวด์ และ 5. ผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยและสำรองข้อมูล ทั้งนี้ เทคโนโลยี 3 จี และ 4 จีที่กำลังจะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมโทรคมไทย แผนลงทุนเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งในองค์กรภาครัฐ รวมทั้งโซเชียล เน็ตเวิร์ค จะเป็นแรงกระตุ้นให้การเติบโตเพิ่มขึ้น