User Online ( 14 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » Updated - กูเกิลอ่วมข้อหา “สอดแนม”
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

Updated - กูเกิลอ่วมข้อหา “สอดแนม”

กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน ทนายความ และคู่แข่งรายสำคัญอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) พร้อมใจกันยัดเยียดตำแหน่งผู้ต้องหาคดีสอดแนมและละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้ให้กับกูเกิล (Google) ระบุกูเกิลตั้งใจหลบเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยในโปรแกรมเบราว์เซอร์ เพื่อสอดแนมข้อมูลสำหรับนำไปใช้ในกระบวนการนำเสนอโฆษณาของตัวเอง ด้านกูเกิลปัดไม่ได้หวังกำไรจนมองข้ามความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างที่ ถูกกล่าวหา แม้ศาลจะรับคำฟ้องของผู้ใช้อเมริกันที่เรียกค่าเสียหายจากการถูกกูเกิลสอด แนมแล้ว

ดีน ฮาชาโมวิตช์ (Dean Hachamovitch) รองประธานฝ่ายปฏิบัติการผลิตภัณฑ์เบราว์เซอร์ไออี (Internet Explorer) โพสต์ข้อความในเว็บไซต์ของบริษัทว่าบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ากูเกิล มีความพยายามหลีกเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้ไออี เพื่อสอดแนมและติดตามการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ไออีจริงหรือไม่อย่างไร โดยยอมรับว่าไออีคือเหยื่ออีกรายหลังจากเบราว์เซอร์ซาฟารี (Safari) ของแอปเปิลมีแนวโน้มถูกหลบเลี่ยงเช่นกัน

“กูเกิลกำลังใช้วิธีการเดียวกันเพื่อเลี่ยงการป้องกันที่ไอ อีตั้งไว้เป็นค่าเริ่มต้น (default) และติดตามผู้ใช้ด้วยคุกกี้ เรากำลังตรวจสอบเพื่อหาทางปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น”

การประนามกูเกิลครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นอลได้เปิดเผยผลการศึกษาจากโจนาธาน เมเยอร์ (Jonathan Mayer) นักวิจัยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดซึ่งพบช่องโหว่บนเบราว์เซอร์ซาฟารี โปรแกรมท่องเว็บไซต์ที่แอปเปิลติดตั้งในไอโฟน ไอแพด และไอพ็อด โดยช่องโหว่ดังกล่าวทำให้ผู้ให้บริการโฆษณาออนไลน์รวมถึงกูเกิลสามารถติดตาม พฤติกรรมการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ของผู้ใช้ผ่านไฟล์คุกกี้ ที่มักเป็นเครื่องมือของเว็บไซต์ให้ผู้ใช้เปิดเว็บได้เร็วขึ้นในครั้งถัดไป

รายงานระบุว่า ปกติแล้วเบราว์เซอร์ทั่วไปจะยอมรับไฟล์คุกกี้จากเว็บไซต์ที่ถูกเปิดใช้งาน เท่านั้น และจะปิดกั้นคุกกี้รูปแบบอื่นซึ่งค่ายโฆษณาออนไลน์มักจะแอบส่งมาด้วย แต่นักวิจัยของสแตนด์ฟอร์ดพบว่ากูเกิลสามารถหลอกล่อให้เครื่องรับไฟล์คุกกี้ ได้อย่างไม่ตั้งใจ โดยใช้ปุ่ม “+1” ที่ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยี DoubleClick เป็นตัวบังหน้า

ทันทีที่ข่าวถูกเผยแพร่ใน ช่วงต้นสัปดาห์ กูเกิลเริ่มดำเนินการลบไฟล์คุกกี้เพื่อการโฆษณา หรือ advertising cookie ที่ใช้กับเบราว์เซอร์ซาฟารีทันที พร้อมกับยอมรับว่าระบบปุ่ม +1 ทำให้กูเกิลสามารถติดตามพฤติกรรมการเข้าเว็บไซต์จากไฟล์คุกกี้ได้จริง แต่เป็นพฤติกรรมที่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้ ทำให้ไม่เกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด

แอปเปิลออกมาชี้แจงในเวลาไล่เลี่ยกันว่า บริษัทกำลังหาวิธีหยุดยั้งการละเมิดทุกชนิดบนซาฟารี พร้อมกับกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนที่ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลสหรัฐฯ ให้กูเกิลจ่ายค่าเสียหายแก่ผู้ใช้ซาฟารีจำนวนหลายล้านคน ขณะที่ผู้แทนมลรัฐแคลิฟอร์เนียส่งจดหมายเรียกตัวแทนกูเกิลเข้าชี้แจงต่อ สาธารณชน ว่าบริษัทเก็บข้อมูลอะไรจากผู้ใช้และจะใช้ข้อมูลดังกล่าวอย่างไร

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ ไมโครซอฟท์ออกมาผสมโรงว่า ผู้ใช้เบราว์เซอร์ไออีก็ถูกกูเกิลละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวเช่นกัน พร้อมกับระบุว่าจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อปกป้องผู้ใช้ไออีอย่างที่สุด

อย่างไรก็ตาม กูเกิลออกมาตอบโต้ว่าไมโครซอฟท์นั้นรู้ปัญหานี้มานานหลายปีแล้ว โดยอ้างว่าไมโครซอฟท์ไม่ใส่ใจที่เว็บไซต์อย่างเฟซบุ๊ก และอเมซอนใช้ประโยชน์จากเทคนิคเลี่ยงระบบปิดกั้นคุกกี้ในไออีมาตลอด จุดนี้ คริสโตเฟอร์ โซโกเอียน (Christopher Soghoian) นักวิจัยอิสระแสดงความเห็นด้วยโดยบอกว่าแทนที่จะแก้ปัญหาในไออีที่เฟซบุ๊ก และอเมซอนใช้ประโยชน์ ไมโครซอฟท์กลับไม่ดำเนินการใดๆ แต่ตอนนี้กลับมาต่อว่าเมื่อกูเกิลใช้ประโยชน์จากเทคนิกนี้บ้าง

เรเชล แวทสโตน รองประธานอาวุโส ฝ่ายการสื่อสารระดับโลก กูเกิล กล่าวโดยระบุว่า ไมโครซอฟท์ใช้นโยบายที่ให้ผู้ใช้กำหนดหรือตั้งค่าความเป็นส่วนตัวด้วยตนเอง (self-declaration protocol) หรือเรียกกันอีกอย่างว่ามาตรฐาน P3P ที่ใช้กันมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2002 โดยขอให้เว็บไซต์ต่างๆ แสดงบทบาทการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่ระบบสามารถเข้าใจได้ ซึ่งเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปและไมโครซอฟท์เองก็รู้ดีว่าการทาตามคาขอของ ไมโครซอฟท์นั้นทาได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องใช้กับฟังก์ชั่นเว็บสมัย ใหม่ Google ได้สื่อสารอย่างโปร่งใสและชัดเจนเรื่องวิธีการและแนวทางของเราดังเช่นเว็บ อื่นๆ อีกมากมาย

"ในวันนี้นโยบายดังกล่าวของไมโครซอฟท์ไม่มีการนามาใช้อย่างแพร่หลาย อีกต่อไป แล้วในปีค.ศ. 2010 มีรายงานฉบับหนึ่งระบุว่าเว็บไซต์มากกว่า 11,000 แห่งก็ไม่ได้ใช้มาตรฐาน P3P ของไมโครซอฟท์แล้ว"

เช่นเดียวกับนักวิจัยนามลอเรน เวน์สไตน์ (Lauren Weinstein) ซึ่งวิจารณ์การผสมโรงของไมโครซอฟท์ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่สร้างสรรค์ และไม่ช่วยให้สังคมได้รับความกระจ่างในประเด็นการละเมิดของกูเกิล

ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ แต่ความพยายามหลีกเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยบนเบราว์เซอร์ของกูเกิลนั้น ก็ส่อเจตนาไม่สุจริตในทุกกรณี โดยกลุ่มรักษาสิทธิมนุษยชนได้ออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมการการค้ายุติธรรม สหรัฐฯ หรือ US Federal Trade Commission ออกมาตรวจสอบกูเกิลอย่างจริงจัง

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกู เกิล คือ การออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่เบราว์เซอร์ซาฟารีสามารถทำให้คุกกี้ของกูเกิลถูก ส่งไปยังเครื่องของผู้ใช้ได้ ว่าเป็นผลลัพธ์ที่กูเกิลไม่คาดหวังให้เกิดขึ้น โดยยังไม่มีความเห็นอื่นต่อกรณีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม

นอกจากซาฟารี และไออี ยังไม่มีรายงานจากเบราว์เซอร์ที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคนอย่างไฟร์ฟอกซ์ (Firefox) ว่าพบการเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อติดตามการใช้งานของผู้ใช้หรือไม่ ซึ่งคาดว่าผลการสอบสวนของเรื่องนี้จะได้รับความสนใจจากชาวออนไลน์ทั่วโลกอีก นาน
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.