User Online ( 4 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » เครื่องถ่ายเอกสารต้องขาย “โซลูชั่น” พ่วง
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

เครื่องถ่ายเอกสารต้องขาย “โซลูชั่น” พ่วง

ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารในประเทศไทย นับเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีความต้องการใช้งานเติบโตต่อเนื่อง แม้ไม่ได้มีอัตราการเติบโตสูงเหมือนในอดีต ทว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจากอะนาล็อกมาสู่ดิจิตอล ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนการใช้งานจากเครื่องถ่ายเอกสาร มาเป็นมัลติฟังก์ชั่นมากขึ้น ประกอบกับการให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีจัดการต้นทุนการพิมพ์ให้ดีขึ้น จึงมีการประเมินภาพรวมตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นปีนี้ว่าจะมี อัตราเติบโตอยู่ที่ 15-20%
“ตอนนี้เทคโนโลยีการพิมพ์พัฒนารวดเร็ว แม้เราจะยังเป็นผู้นำตลาดนี้ แต่เจ้าอื่นก็พยายามเข้ามาแข่งขัน และต้องการสร้างการเติบโต ส่งผลให้การแข่งขันรุนแรง โดยมีราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการแย่งชิงลูกค้า”
สมมาตร บุญยะสุนานนท์ รองประธาน บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงเกมการแข่งขันของตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นปีนี้
ปัจจุบันแบรนด์หลักๆ ที่อยู่ในตลาดนี้มีประมาณ 4-5 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น แคนนอน ไอเฟค โตชิบา และชาร์ป โดยแต่ละแบรนด์พยายามชูผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นหัวหอกในการเข้าถึงลูกค้าโดยเฉพาะ กลุ่มองค์กร รวมถึงการใช้กลยุทธ์ราคาต่ำในการเจาะถึงลูกค้าเป้าหมาย
แนวทางการทำตลาดของ “ฟูจิซีร็อกซ์ฯ” ในปีนี้ จึงพยายามจะหลีกการแข่งด้วยราคา แต่จะเน้นสร้างความแตกต่าง โดยเสนอเป็นโซลูชั่นการบริหารจัดการงานพิมพ์แบบครบวงจรร่วมกับพาร์ตเนอร์ใน กลุ่มธุรกิจต่างๆ แทนรูปแบบเดิมที่เน้นการขายเครื่องในราคาถูกเพียงอย่างเดียว
วิธีนี้นอกจากจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการ เพราะแต่ละธุรกิจต้องการงานพิมพ์ต่างกัน ยังจะทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ด้านต้นทุน ซึ่งจากการทำตลาดในช่วงที่ผ่านมา สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านงานเอกสารประมาณ 30% โดยปีนี้จะมุ่งพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เจาะ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก คือ โรงงานอุตสาหกรรม การศึกษา โรงแรม โรงพยาบาล และสถาบันการเงิน โดยเชื่อว่า แนวทางดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนรายได้จากการขายโซลูชั่นเพิ่มเป็น 15% จากปีที่แล้วมีสัดส่วน 10%
พร้อมกันนี้ ยังให้น้ำหนักกับการขายในรูปแบบเช่าซื้อ (ลีสซิ่ง) มากขึ้น เนื่องจากลูกค้าเพิ่มความนิยม จะเห็นจากสัดส่วนลูกค้าของบริษัทที่มีการซื้อผ่อนสูงถึง 60% และคาดว่าน่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น เป็นเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ต้องการซื้อเครื่องใหม่ โดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินก้อน ฟูจิซีร็อกซ์ฯ จึงตั้งบริษัทลูก “ฟูจิ ซีร็อกซ์ ลีสซิ่ง” เพื่อดูแลด้านการเช่าซื้อขึ้น พร้อมทั้งมีแผนจะขอเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 40 ล้านบาท เป็น 150 ล้านบาท เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้คล่องตัว และเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้ามากขึ้น
อีกหนึ่งกลยุทธ์คือเรื่องของสาขา เป็นอีกหัวใจสำคัญในการบุกทะลวงถึงกลุ่มลูกค้า ฟูจิซีร็อกซ์ฯ มีแผนจะขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งเตรียมใช้งบประมาณ 10-15 ล้านบาท ขยายศูนย์บริการไปภาคใต้ และอีสานอย่างละ 1 แห่ง รวมทั้งตกแต่งชอปใหม่ในต่างจังหวัดอีก 3 แห่งให้มีคุณภาพ เพื่อหวังให้เป็นช่องทางสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจนและเข้าถึงวงกว้าง มากขึ้น
จากแนวทางการบุกตลาดอย่างหนักตั้งแต่เปิดศักราช ฟูจิซีร็อกซ์ฯ เชื่อว่า สิ้นปี 2555 จะสามารถเติบโตได้ 15% โดยมีรายได้รวมทุกกลุ่ม 4,000 ล้านบาท
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.