ยักษ์ฟ้า ไอบีเอ็มเดินหน้าแผนลงทุนไทยขยายสาขาย่อย 4 แห่ง ประกาศสร้างแบรนด์ดิ้ง มุ่งเจาะโซเชียล มีเดีย เผยบ.แม่ไฟเขียวให้ดูตลาดลาว

ยักษ์ฟ้า ไอบีเอ็มเดินหน้าแผนลงทุนไทยขยายสาขาย่อย 4 แห่ง พร้อมประกาศสร้าง "แบรนด์ดิ้ง" ย้ำภาพใหญ่ฉลอง 60 ปี ไอบีเอ็มไทย เจาะโซเชียล มีเดีย พร้อมเผยบริษัทแม่ไฟเขียวให้ดูแลตลาดน้องใหม่ "ลาว" คาดสรุปแผนได้ไตรมาส 2 ชี้ "บิสิเนส อนาไลติก-คลาวด์คอมพิวติ้ง-ดิสแอสเตอร์ รีคัฟเวอร์รี่" ไฮไลต์ลงทุนปีนี้

นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะเดินหน้าแผนการลงทุนธุรกิจในไทย โดยเฉพาะการขยายสาขาย่อยของไอบีเอ็มอีก 4 แห่งในจังหวัดขอนแก่น, นครราชสีมา, หาดใหญ่ และชลบุรี และเป็นไปได้ที่จะเพิ่มสาขาย่อยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองรับการขยายตลาดในต่างจังหวัดจากเดิมที่มีสาขาย่อยที่เชียงใหม่แห่งเดียว คาดว่าจะเพิ่มคนราว 4-5 คนต่อสาขา

นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนทำ กิจกรรมการตลาด และสร้าง "แบรนด์ดิ้ง" ที่จะทำเฉพาะในไทย ซึ่งในปีนี้มีอายุครบ 60 ปี เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของบริษัท และทำให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากยิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซปท์ "โพรเกรส (Progress)" ที่ตลาดจะนึกถึง โดยคาดว่าจะเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านสื่อใหม่ๆ เช่น โซเชียล มีเดีย

ทั้งนี้เป็นผลจากผลประกอบการไอบีเอ็มไทยปีที่ผ่านมาสูงกว่าการเติบโตของการเติบโตองค์กรโดยรวม ซึ่งปี 2554 ไอบีเอ็มมีรายได้รวม 106.9 พันล้านดอลลาร์ โตขึ้น 7% ขณะที่ไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศในกลุ่มที่เติบโตสูงของไอบีเอ็ม และเป็นเป้าหมายของการลงทุนของบริษัทแม่

พร้อมกันนั้นปีนี้ไอบีเอ็ม ประเทศไทยยังได้รับมอบหมายให้ดูแลการทำตลาดในลาว เพื่อขยายตลาดใหม่ จากเดิมที่ดูแลโดยเวียดนาม แต่เนื่องจากศักยภาพไทยมีมากกว่า โดยกำลังพิจารณาอาจตั้งสำนักงาน หรือใช้ความร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่น ซึ่งต้องดูความพร้อมของธุรกิจโดยรอบ เช่น ออนไลน์ แบงค์กิ้ง, บริษัทสื่อสาร และธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสรุปแผนที่ชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 2 รวมทั้งความเป็นไปได้ที่จะเข้าไปทำธุรกิจในพม่าหลังจากเริ่มเปิดประเทศ

อย่าง ไรก็ตาม นอกจากการลงทุนในองค์กรแล้วในปีนี้ก็จะเริ่มเห็นการลงทุนในด้านอื่นๆของ บริษัท เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด และเตรียมพร้อมตลาดสำหรับการเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดอาเซียนกำลังเป็นกลุ่มไฮไลต์การเติบโตของ เศรษฐกิจโลก รองจากจีน และอินเดีย

นางพรรณสิรี เผยว่า เป้าหมายหลักของไอบีเอ็มไทยปีนี้นอกเหนือจากการสร้างธุรกิจแล้ว ยังมีแผนสร้างคน และสร้างเมืองตามแนวคิดสมาร์ท ซิตี้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของไอบีเอ็มในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ทั้ง นี้รวมทั้งแผนการสร้าง "อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์" ด้านบิสสิเนส อนาไลติค (บีเอ) ในไทย และการสนับสนุนการสร้างบุคลากร โดยคัดเลือกครูเพื่อไปอบรมในสำนักงานใหญ่ และกลับมาสร้างหลักสูตรด้านบีเอในไทย ซึ่งตั้งเป้าสร้างบุคลากรกลุ่มดังกล่าวให้ได้อย่างน้อย 10,000 คนภายใน 3-4 ปีจากนี้ จากความต้องการตลาดทั่วโลกราว 30,000 คน

"เราใกล้จะรู้ผลแล้วว่าจะได้งบมาทำอินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ที่เราตั้งเป้าจะดึงเทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญเข้ามา และซัพพอร์ตตลาดไอบีเอ็มในภูมิภาคด้วย เพราะโซลูชั่นด้านบีเอ กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้น" นางพรรณสิรีกล่าว

พร้อม กับคาดการณ์ว่า ในปีนี้โซลูชั่นด้านบิสสิเนส อนาไลติค ก็จะยังเป็นซอฟต์แวร์อันดับต้นๆที่องค์กรธุรกิจจะลงทุน เนื่องจากจำเป็นต่อการใช้ข้อมูลเพื่อช่วยตัดสินใจทางธุรกิจ โดยปีที่ผ่านมายอดขายโซลูชั่นด้านบีเอ เติบโตถึง 47%

ขณะเดียวกัน ยังมีกระแสของเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง และโซลูชั่นด้านดิสแอสเตอร์ รีคัฟเวอร์รี่ เพื่อรองรับความเสี่ยงของธุรกิจ โดยมีเป้าหมายในกลุ่มธุรกิจโทรคม, สถาบันการเงิน, พลังงาน, ภาครัฐ และตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และธุรกิจค้าปลีกทั่วไป

"ทิศ ทางการลงทุนขององค์กรในปีนี้ส่วนใหญ่ก็ยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง โดยดูจากปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด แต่โครงการ หรือโปรเจคที่มีอยู่ก็ยังเดินหน้าต่อ เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ก็มักจะมองเรื่องของความเสี่ยงไว้ด้วยอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานที่หลายแห่งเริ่มให้เราเข้าไปคุยแผนการสร้างไซต์สำรอง แห่งที่2 และ 3 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยงในอนาคต" นางพรรณสิรีกล่าว

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารักษาการเติบโตให้เป็นไปตามแผนที่บริษัทแม่วางแผนให้ไอบีเอ็มมี รายได้ต่อหุ้น (Earning Per Share) เป็น 20% ภายในปี 2558 จากปัจจุบันอยู่ที่ 13.6% และมีรายได้จากกลุ่มตลาดเติบโตสัดส่วน 30% จากปัจจุบันราว 21%