เปิดใจ "ยูจีน แคสเปอร์สกี้" ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ บริษัทแคสเปอร์สกี้ แล็บ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ป้องกันข้อมูลจากการคุกคามทางไซเบอร์สัญชาติรัสเซีย

"ยูจีน แคสเปอร์สกี้" ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ บริษัทแคสเปอร์สกี้ แล็บ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ป้องกันข้อมูลจากการคุกคามทางไซเบอร์สัญชาติรัสเซีย กล่าวในงาน "Kaspersky Lab Cyber Conference 2012 : IT Security in the age of Cyber Warfare" ที่เมืองแคนคูน ประเทศเม็กซิโก

"ยูจีน" เคยได้รับรางวัล State Prize จากสหพันธ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศรัสเซีย (the Russian Federation for Science and Technology) ซึ่งรางวัลนี้มอบให้แก่ชาวรัสเซียที่มีผลงานโดดเด่นและประสบความสำเร็จ สร้างคุณค่าแก่ประเทศและโลกวิทยาศาสตร์ เขาถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารไอทีที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะแนวทางการทำตลาดซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส และภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ต ที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่า มันก็แค่ "ไวรัส" หรือก็แค่ "มัลแวร์" แต่ยูจีน กลับมองว่า มันคือหนึ่งในวิถีของการก่ออาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ ที่สร้างความเสียหายได้ในระดับชาติ และระดับโลก

มีข้อมูลระบุว่า อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber Crime) ได้สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศอังกฤษมากกว่า 2 หมื่นล้านยูโรต่อปี ขณะที่บริษัทที่ตกเป็นเหยื่อของการเจาะข้อมูล ก็เริ่มกลายเป็นบริษัท หรือหน่วยงานขนาดใหญ่ ที่ดูเหมือนว่ามีระบบซิเคียวริตี้ที่เพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกูเกิล นาซ่า ซีไอเอ ล็อกฮีด มาร์ติน ซิตี้กรุ๊ป แนสแด็ก โซนี่ ที่ล้วนกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของบรรดาอาชญากรไซเบอร์แล้วทั้งสิ้น

ที่ผ่านมา "ยูจีน" พยายามผลักดันให้รัฐบาลแต่ละประเทศ "ตระหนัก" ถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะความนิยมที่พุ่งพรวดของเทคโนโลยี และแก๊ดเจ็ทใหม่ๆ การขยายตัวของอินเทอร์เน็ตที่ทำให้คนออนไลน์ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลก ซึ่งถือเป็นช่องทางสร้างใหม่ความเสียหายของบรรดาแฮคเกอร์ หรือผู้ไม่ประสงค์ดี (Bad Guy) ด้วยเช่นกัน

เสนอแนวคิดสกัดอาชญากรออนไลน์

"ผมเสนอให้ตั้งหน่วยงานที่เรียกว่า International Cyber Security Agency หรือ ICSA ซึ่งจะเป็นองค์กรอิสระ ที่ร่วมมือระหว่างหน่วยงานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะรัฐบาลต่างๆ ICSA อาจกำจัดอาชญากรรมไซเบอร์ให้หมดไปไม่ได้ แต่มันจะช่วยทำสงครามไซเบอร์บรรเทาเบาบางลง ที่สำคัญต้องขึ้นอยู่กับความตระหนักที่พร้อมจะป้องกัน และแก้ไขของรัฐบาลในแต่ละประเทศด้วย"

ยูจีน บอกว่า การโปรโมทหน่วยงานนี้ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศแล้วอย่างไอทียู หรือสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ รวมไปถึงภาครัฐของประเทศใหญ่ๆ อย่างในลอนดอน ดาวอส มิวนิค สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาประเมินว่า ภายในปีนี้จะได้เห็นความเคลื่อนไหวของแนวคิดที่เขาเสนอมากขึ้น

เขายืนยันว่า การโปรโมท ICSA ไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจของเขาเลย แต่เขาถือเป็นหน้าที่ที่ต้องการให้โลกปลอดภัย

ปัจจุบัน "แคสเปอร์สกี้" ครองอันดับ 4 ของตลาดซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสระดับโลก เมื่อปี 2554 รายได้เติบโตราว 14% ด้วยยอดรวมมากกว่า 600 ล้านดอลลาร์ มียอดการ Activate ซอฟต์แวร์แคสเปอร์กี้มากกว่า 10 ล้านครั้งต่อเดือน โดยตลาดใหญ่ของแคสเปอร์สกี้ยังเป็นยุโรป อเมริกา ละตินอเมริกา

โซเชียลฯ คลาวด์ แอนดรอยด์..เหยื่อ

ยูจีน บอกว่า ตลาดซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสปีนี้ จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปิดช่องให้ผู้ไม่ประสงค์ดีแพร่ไวรัสประเภทต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีระบบเปิดอย่างแอนดรอยด์ และเทคโนโลยีเก็บข้อมูลบนคลาวด์ รวมไปถึงการขยายตัวการใช้โซเชียล เน็ตเวิร์ค ซึ่งทั้งหมดนี้ ยังเป็นช่องทางของการเจาะระบบไปยังข้อมูลสำคัญ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือก่อการร้ายข้ามชาติได้ด้วย

กระนั้นก็ตาม ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมญี่ปุ่น ยังเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของแคสเปอร์สกี้ โดยเมื่อปี 2554 รายได้เติบโตมากกว่า 20%

"กลยุทธ์การทำตลาดในภูมิภาคเอเชียแตกต่างกันไปตามแต่ละ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ไทย หรือจีน ในจีนการทำตลาดก็จะแตกต่างจากไต้หวัน หรือฮ่องกง ซึ่งแคสเปอร์สกี้จะให้อิสระกับออฟฟิศในประเทศนั้นๆ กำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่น"

ยูจีน คอมเมนท์ตลาดใหญ่อย่างจีน แบบตรงไปตรงมาว่า ถือเป็นตลาดที่สร้างความท้าทายให้แคสเปอร์สกี้อยู่เสมอ เพราะกว่า 90% ของซอฟต์แวร์ในจีนยังละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ ซอฟต์แวร์ของแคสเปอร์สกี้ที่ได้รับความนิยมมาก คือ ซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดได้ฟรีเท่านั้น

"เอเชียถือเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ แต่ก็ยังมีที่อื่นด้วย เช่น อเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา แอฟริกา แต่โดยรวมธุรกิจของแคสเปอร์สกี้ยังเติบโตต่อเนื่องเป็นตัวเลข 2 หลักในทุกๆ ตลาด ยกเว้นที่จีนเท่านั้น เพราะการละเมิดซอฟต์แวร์ในจีนยังสูง แต่บริษัทเชื่อว่า จะดึงมาร์เก็ตแชร์จากจีนมาได้บ้าง จากการเปิดตัวโปรดักท์ใหม่ๆ ความร่วมมือใหม่ๆ กับพาร์ทเนอร์"

ชี้เอเชีย แปซิฟิกตลาดสำคัญ

ทั้งนี้ ตลาดเอเชียแปซิฟิกจะเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ที่แคสเปอร์สกี้ จะทำตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งแคสเปอร์สกี้ยังไม่ได้ทำกิจกรรมการตลาดมากนัก แม้จะมีจำนวนผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ขององค์กรไม่มากก็ตาม

ก่อนหน้านี้ บริษัทสร้างชื่อในกลุ่มคอนซูเมอร์มาก่อน จนเป็นที่รู้จักแบรนด์แคสเปอร์สกี้ได้ดีระดับหนึ่งแล้ว ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างเข้มแข็งในกลุ่มนี้ แต่ยังไม่โฟกัสตลาดองค์กรนัก จากปีนี้ไป เชื่อว่า แคสเปอร์สกี้จะโฟกัสเป็นพิเศษ ซึ่งโอกาสทางการตลาดของแคสเปอร์สกี้ในตลาดเอเชียแปซิฟิกยังใหญ่

ขณะเดียวกัน แคสเปอร์สกี้ แล็บ ได้เข้าเป็นสมาชิกระดับโกลด์ในโปรแกรมเอ็นเตอร์ไพร์ส อัลลิอันซ์ ของซัมซุง ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะนำมาซึ่งการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ระหว่างผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ แล็บ ในอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบของซัมซุง

ผู้บริหารแคสเปอร์สกี้ ระบุว่า โปรแกรมดังกล่าว เป็นโปรแกรมคู่ค้าที่ออกแบบเพื่อจำแนกผลกำไรการขาย การตลาด การพัฒนาโซลูชั่น สำหรับผู้ค้าซอฟต์แวร์อิสระชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลก และคู่ค้าระบบเบ็ดเสร็จ เพื่อสร้างสรรค์รูปแบบผลกำไรใหม่ผ่านธุรกิจโซลูชั่นมือถือของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ขณะที่ ความร่วมมือครั้งนี้ แคสเปอร์สกี้ จะบันเดิลแคสเปอร์สกี้ โมบาย ซิเคียวริตี้ และแคสเปอร์สกี้ แทบเล็ต ซิเคียวริตี้ให้โปรดักท์แอนดรอยด์ของซัมซุงทั้งหมด