User Online ( 12 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ซอฟต์แวร์พาร์ค กำหนด 8 เทรนด์ไอที แรง
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ซอฟต์แวร์พาร์ค กำหนด 8 เทรนด์ไอที แรง

เขต อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (Software Park Thailand) ร่วมกับสมาคมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย (ATCI) สมาคมความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ (TISA) บริษัท True IDC บริษัท ACIS Professional Center และ บริษัท S-Generation กำหนดแนวโน้มเทคโนโลยีของประเทศไทย 2555

ทั้งนี้ ข้อสรุปของซอฟต์แวร์พาร์ค กำหนดได้เป็น 8 เทรนด์เทคโนโลยี ดังนี้

1) Business Continuity สถานการณ์ในประเทศและเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจต่างๆ ให้ความสนใจในเรื่องการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity) มากขึ้น องค์กรต่างๆ จะเริ่มให้ความสำคัญกับการทำแผนธุรกิจต่อเนื่อง (Business Continuity Planning) การทำ Disaster Recovery ในปีนี้ จะเห็นการเติบโตของ Data Center โดยมีการนำ Infrastructure ทั้งส่วนที่เป็น Production หรือ Backup site มาอยู่ที่ Data Center มากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้แบบ 24x7

2) Cloud Computing กระแสเรื่องของ Cloud Computing ก็ยังแรงอยู่ในประเทศไทย องค์กรขนาดใหญ่จะให้ความสำคัญกับการสร้าง Private Cloud มากขึ้น ทางด้าน Public Cloud จะเห็นความต้องการทางด้าน Infrastructure as a Service (IaaS) และ Software as a Service (SaaS) มากขึ้น ผู้ให้บริการจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น กระแสความต้องการ Business Continuity จะทำให้ตลาด Cloud Computing ในประเทศไทยโตขึ้นแม้จะต้องมีพัฒนาในด้าน High Speed Connectivity และ Data Protection Policy มากขึ้นก็ตาม

3) Media Tablet and Beyonds Gartner ได้กำหนดให้เทคโนโลยี Media Tablet เป็น Top Technology Trends 2012 ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ประเทศไทยให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่า ที่อื่นๆในโลก ความต้องการของผู้บริโภคในประเทศก็จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการแจก Tablet ให้กับนักเรียนจะเป็นการเร่งให้ตลาดนี้โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เราจะเห็นผู้บริโภคในประเทศเน้นไปที่ตลาดระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และ Android เช่นเดิม

4) Mobile Centric Application, Contents and Interfaces เรื่องนี้สอดคล้องกับ Gartner Trends 2012 ที่เราจะเห็นความต้องการทางด้าน Application และ Content ต่างๆ มากขึ้น สำหรับผู้บริโภคที่ใช้งานอุปกรณ์ SmartPhone และ Tablet โดยจะเห็นการแข่งขันกันพัฒนา Application ที่เป็น Mobile Centric มากขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ และการโตของตลาด High Speed Connectivity จะทำให้ผู้บริโภคต้องการที่เข้าถึง Application และ Content ในทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์ (Anywhere, Anytime and AnyDevice)

5) Social Network กระแส Social Network ในประเทศไทยก็ยังแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Facebook ที่มีจำนวนผู้ใช้ล่าสุดมากกว่า 13 ล้านคน จะเห็นความเติบโตของการทำ Social Media Marketing ความต้องการ Application ต่างๆ บน Social Network มากขึ้น รวมถึงการแข่งขันของผู้ให้บริการมือถือที่จะให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึง Social Network กันมากขึ้น และรวมถึงอาจเห็นการทำธุรกรรมผ่าน Social Network มากขึ้นด้วย

6) High Speed Connectivity ความต้องการใช้ Online Application จะทำให้การเข้าถึง Internet ความเร็วสูงยังเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ตลาด Broadband ในประเทศไทยยังจะโตอย่างต่อเนื่อง และจะเห็นการแข่งขันในด้านนี้มากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันของ Telecom Operator ในการให้บริการ 3G และการเปิดประมูล 3G ในปีนี้จะทำให้ตลาดทั้งในส่วน Mobile Connectivity และ Broadband Connectivity โตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการ Wi-Fi ของค่ายต่างๆ และนโยบายฟรี Wi-Fi ของรัฐบาล

7) Online Consumerization ผู้บริโภคในประเทศไทยจะมีการใช้บริการออนไลน์ต่างๆ มากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการทำงานและเรื่องส่วนตัว เราจะเห็นการทำงานแบบ Virtual Office มากขึ้นมีการใช้งาน e-mail และเครื่องมือที่เป็น Online Communication มากขึ้น รวมถึงการ share ข้อมูลต่างๆของสำนักงานทางออนไลน์ ผู้บริโภคจะใช้เครื่องมืออย่าง Whatsapp หรือ Facebook Message ในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น

8) Predictive Analytic ความต้องการที่จะวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่างๆ ในประเทศจะมีมากขึ้น ทั้งในส่วนที่เป็น Business Intelligent และการนำข้อมูลขนาดใหญ่ใน Internet มาวิเคราะห์ เช่น การทำ Social Network Analytic รวมไปการใช้ข้อมูลมาคาดการณ์ในเรื่องภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น

การ กำหนดแนวโน้มเทรนด์ในปีนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการหรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยได้ใช้เป็นแนวทางเพื่อนำไป พัฒนาและต่อยอดทางธุรกิจ ซึ่ง Software Park Thailand ได้จัดการสัมมนา Technology Trends มาอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี

โดย ปีที่ผ่านมา จะอ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของสำนักวิจัยในต่างประเทศ ซึ่งจากการประชุมหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ต่างก็เห็นว่าเทรนด์เทคโนโลยีของต่างประเทศในหลายเรื่องอาจรวดเร็วกว่า ประเทศไทยอยู่หลายปี และในบางครั้ง เทรนด์ต่างๆ ที่สำนักวิจัยในต่างประเทศกำหนดไว้เมื่อ 2-3 ปีก่อนก็อาจเพิ่งมีความสำคัญกับประเทศไทยในปีนี้ ดังนั้น ขึ้นอยู่กับว่านักพัฒนาซอฟต์แวร์จะหยิบไปใช้เพื่อต่อยอดในการพัฒนาต่อไป

ซอฟต์แวร์พาร์ค วอนรัฐ ต้องช่วยกระตุ้นตลาด

รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย กล่าวว่า เทรนด์เทคโนโลยีวันนี้ต้องดูเรื่องของ Mobile Application, Cloud Computing, Social Network

ขณะ ที่กระแสที่เริ่มเห็นในภาครัฐคือ Government Cloud การทำ Hi-Speed Broadband นอกจากนี้ ภาครัฐต้องผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลตามความต้องการของตลาด

ด้าน นโยบายแท็บเล็ต ภาครัฐจะต้องช่วยกระตุ้นตลาด ต้องเร่งมือให้เกิด 3G ระบบบรอดแบนด์ Wi-Fi อีกทั้งต้องทำให้เกิดการลงทุนในภาครัฐ

ส่วน Cloud Computing ต้องให้เป็นไปตามกลไกตลาด นอกจากนี้ รัฐต้องส่งเสริมการซื้อขายซอฟต์แวร์ในประเทศให้มากขึ้น ให้เป็นแบบ Bussiness Model เป็นการขายบริการ ไม่ได้ขายแบบไลเซนส์
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.