ในช่วงปี 2011 ที่ผ่านมา จะเห็นว่าความเคลื่อนไหวในวงการไอทีมีความคึกคักในด้านการพัฒนา เปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อนๆ มาก ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์สำคัญอย่างการปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมหน่วยประมวลผล บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจาก 1 แกนเป็น 2 แกน จนทำให้เกิดการตายของเน็ตบุ๊กขึ้น หรือแม้แต่เรื่องของเทรนด์กล้องดิจิตอลแบบมืออาชีพที่ถูกกล้องดิจิตอลประเภท ไร้กระจกสะท้อนเข้ามาแทนที่และแย่งแชร์กล้องมืออาชีพระดับล่างไปกว่า 80% ของตลาดกล้องดิจิตอลทั้งหมด

สิ่งเหล่านี้เป็นข้อบ่งชี้ในเรื่องเทคโนโลยีและโลกไอทีไม่มีวันตาย และเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิสจึงขอรวบรวม 10 เด่น 5 แป้ก สินค้าไอทีในปี 2011 จากการทดสอบของทีมงานไซเบอร์บิซตลอดทั้งปี

10 สินค้าไอทีโดนใจทีมงานปี 2011

สมาร์ทโฟน

ไอโฟน 4s - ถึงแม้ด้านสเปกของ ไอโฟน 4s จะเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงภายใน (Minor Change) ของไอโฟน 4 เท่านั้น แต่จุดขายที่น่าสนใจและโดดเด่นติดอันดับน่าสนใจในวงการสมาร์ทโฟนในปีนี้ ก็คือ การใส่ฟีเจอร์ "สิริ (Siri)" ที่เป็นเหมือนปัญญาประดิษฐ์ สามารถตอบโต้ จัดการตารางเวลาและช่วยเหลือการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้ได้จนทำให้ค่ายคู่ แข่งที่ปัจจุบันมีเพียงระบบสั่งการด้วยเสียงธรรมดาๆ หันมาให้ความสนใจ

อีกทั้งถ้านับกระแสความร้อนแรงของแอปเปิล ไอโฟน ที่เปิดตัวครั้งใดก็มีคนให้ความสนใจทุกครั้งแม้ราคาเครื่องและประสิทธิภาพ เทียบกับคู่แข่งแล้วดูไม่มีทางเจาะตลาดระดับคนทั่วไปได้ แต่สุดท้ายแอปเปิลก็ทำได้อย่างน่าเหลือเชื่อตลอดมา

Motorola RAZR - ด้วยชื่อเสียงแบรนด์ โมโตโรล่า ที่อยู่ภายใต้ กูเกิล และความไม่เหมือนใครของ RAZR ในด้านการออกแบบรูปทรงที่เน้นความแข็งแรงจากวัสดุที่เป็น เคฟล่า หน้าจอไร้รอยขีดข่วนจาก Gorilla Glass ขนาด 4.3 นิ้ว และหน่วยประมวลผลที่เป็นดูอัลคอร์ 1.2GHz (แรม 1GB) พร้อมความบางของตัวเครื่องเพียง 7.1 มม. (Edited) ก็เรียกเสียงฮือฮาและความสนใจจากผู้ใช้แอนดรอยด์โฟนได้เกือบทุกคนในระหว่าง งานเปิดตัว

อีกทั้งด้วยการที่กูเกิลประกาศอย่างชัดเจนว่า Motolora RAZR จะได้รับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการเป็นแอนดรอยด์ 4.0 ในปีหน้าอย่างแน่นอน ในขณะที่แบรนด์อื่นยังคงต้องรอผู้ผลิตยืนยันอีกครั้งถึงความเป็นไปได้ในการ อัปเกรดเป็นแอนดรอยด์ 4.0 ในแต่ละรุ่น ยิ่งทำให้ Motolora RAZR น่าสนใจและเมื่อประกอบกับเหตุผลจากสเปกเครื่องที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กูเกิล ต้องการในสมาร์ทโฟนปีหน้า Motolora RAZR มีโอกาสเติบโตสูงกว่าแบรนด์อื่นอย่างเห็นได้ชัด


แท็บเล็ต

ไอแพด 2 - ตลอดปี 2011 ที่ผ่านมาแท็บเล็ตที่ทีมงานทดสอบแล้วโดนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น "ไอแพด 2" เพราะอย่างที่รู้กันว่า ความสามารถแท็บเล็ตนอกจากจะใช้ในการเล่นอินเตอร์เน็ต เช็คเมล์แล้ว เรื่องการใช้งานแทนแล็ปท็อปก็เป็นสิ่งหนึ่งที่แท็บเล็ตควรจะตอบสนองได้ระดับ หนึ่ง ซึ่งไอแพด 2 ทำได้ค่อนข้างดี เพราะด้วยจำนวนแอปฯ ถ้าไม่นับเรื่องปริมาณ แต่มองในเรื่องคุณภาพแล้ว จะพบว่าแอปพลิเคชันที่บรรจุอยู่ในแอป สโตร์ นั้นมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้จริงมากกว่าสโตร์ของคู่แข่งอย่าง "มาร์เก็ต" ของกูเกิล แอนดรอยด์ค่อนข้างมาก

อีกทั้งด้วยชื่อแบรนด์ แอปเปิล ที่เป็นทั้งคนผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในแบรนด์เดียวกัน ยังช่วยลดความยุ่งยากในการเลือกใช้งานแอปพลิเคชันเพราะแอปเปิลสามารถควบคุม ความต้องการสเปกของแอปฯ กับดีไวซ์ของตนได้ จนผู้ใช้เพียงท่องจำว่า แอปฯ นี้ใช้กับไอโฟน ไอพอด ไอแพด รุ่นนี้หรือระบบปฏิบัติการ iOS รุ่นนี้ได้เท่านั้น

Samsung Galaxy Tab - ถ้าผู้ใช้เป็นพวกไม่นิยมสินค้าแอปเปิลด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็คงต้องหันมาพึ่งแท็บเล็ตแอนดรอยด์ และ Samsung Galaxy Tab ทั้งขนาด 10 นิ้วหรือ 8.9 นิ้วก็เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่ทีมงานไซเบอร์บิซอยากแนะนำมากที่สุด

เพราะจากที่ทีมงานทดสอบแอนดรอยด์แท็บเล็ตในปี 2011 ที่ผ่านมาด้านความลื่นไหลแล้วคงต้องยกให้ Galaxy Tab นอกจากนั้นตัวเครื่องยังรองรับเครือข่าย 3G และ WiFi แบบเดียวกับไอแพด รวมถึงหน้าจอที่มีความละเอียดแบบ HD 720p และ Galaxy Tab ยังโดดเด่นในเรื่องการแบ่งขนาดออกเป็นหลายรุ่นไล่ตั้งแต่ 10 นิ้ว ถึง 8.9 นิ้ว และ 7 นิ้ว พลัส ที่เพิ่งวางตลาดไปและมาพร้อมความสามารถในการใช้โทรศัพท์ได้

กล้องดิจิตอล

Sony NEX-5N - ปี 2011 ถือเป็นปีที่กล้องไร้กระจกสะท้อน (Mirrorless) มีอัตราเติบโตสูงขึ้น และ Sony NEX-5N ก็เป็นกล้องไร้กระจกที่มีความโดดเด่นและเรียกคะแนนทดสอบจากทีมงานไซเบอร์บิ ซไปได้อย่างมาก

โดยสิ่งที่โดดเด่นโดนใจทีมงานไซเบอร์บิซของ NEX-5N นอกจากความสามารถในการเปลี่ยนเลนส์ได้แล้ว ยังมีในเรื่องฟังก์ชันในตัวกล้องที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้มือใหม่และ ผู้ใช้มืออาชีพ อย่างเช่นฟังก์ชัน Handheld Twilight ที่ช่วยถ่ายภาพกลางคืนได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องหรือแม้แต่เรื่องการขจัด สัญญาณรบกวน (Noise Reduction) ที่ทำได้ดีในช่วงค่าความไวแสงตั้งแต่ 100-1,600 อีกทั้ง NEX-5N ยังมาพร้อมความสามารถในการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p ที่ความเร็วเฟรม 60 เฟรมต่อวินาทีด้วย

Panasonic Lumix GX1 - เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมาทางพานาโซนิคได้เปิดตัว GX1 และทีมไซเบอร์บิซได้มีโอกาสร่วมทดสอบประสิทธิภาพ GX1 ด้วยเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ GX1 กลับสร้างความถูกใจและโดนใจทีมงานไซเบอร์บิซจนทีมงานขอเทคะแนนให้ Panasonic GX1 กลับมาติดอันดับกล้องดิจิตอลโดนใจทีมงานอีกครั้ง หลังจากสร้างความผิดหวังมาก่อนหน้ากับ Panasonic GF3

โดยเหตุผลที่ Lumix GX1 โดนใจทีมงานไซเบอร์บิซนอกจากเรื่องบอดี้ตัวกล้องที่จับกระชับขึ้นและแข็งแรง ด้วยการใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ ในเรื่องของเลนส์กล้องและราคาเปิดตัวเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญเพราะเลนส์ที่ ได้รับการเปิดตัวพร้อม GX1 จะเป็นเลนส์ซีรีย์ใหม่จากพานาโซนิคที่เรียกว่า "X เลนส์" โดยเป็นเลนส์ที่ถูกเคลือบหน้าเลนส์ด้วยนาโนเทคโนโลยี ซึ่งมีผลให้ภาพถ่ายที่ได้จะใสไร้แฟล์รบกวน และเมื่อรวมกับเลนส์พานาโซนิคและไลก้าที่สามารถใช้งานร่วมกันได้แล้ว ทำให้กล้องตระกูล Lumix ทั้งหมดจะมีเลนส์ให้เลือกใช้ถึง 14 ตัวมากกว่าคู่แข่งอย่างโซนีที่มีเลนส์ให้เลือกใช้เพียงไม่กี่ตัวในปัจจุบัน

อีกทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีและลูกเล่นที่พัฒนาเพิ่มเติมจากรุ่นก่อน หน้าที่ทำได้ดีขึ้น รวมถึงราคาเปิดตัวพร้อม X เลนส์ที่ตั้งอยู่เพียง 2 หมื่นปลายๆ เท่านั้น

แล็ปท็อป

Lenovo ThinkPad X1 - ในปี 2011 ที่ผ่านไปจะเห็นว่ากระแสแล็ปท็อปดูเงียบเหงาและไม่มีสีสันเหมือนปีก่อน แต่ท้ายสุดเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา ทางเลอโนโวก็ได้เปิดตัว ThinkPad X1 และสร้างความตื่นตะลึงและประทับใจทีมงานเมื่อในงานเปิดตัวมีการโยนและปา ThinkPad X1 ในระดับความสูงประมาณ 130-140 เซนติเมตร ลงกับพื้นไม้และปูนขณะที่ยังทำงานอยู่ โดยที่ตัวเครื่องไม่มีสิ่งผิดปกติใดเกิดขึ้นแม้แต่น้อย

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้สร้างความสนใจและขอยกให้ ThinkPad X1 เป็นแล็๋ปท็อปแห่งปีได้ไม่ยาก เพราะนอกจากเรื่องความแข็งแรง ทนแรงกระแทกด้วยบอดี้คาบอนไฟเบอร์ผสมแมกนีเซียมแล้ว เรื่องของสเปกและการพกพาก็ทำได้ดี โดย X1 มาพร้อมหน่วยประมวลผลที่แนบเทคโนโลยี Intel Anti Theft Technology (ระบบป้องกันขโมย) ที่เลือกได้ 2 รุ่น ได้แก่ คอร์ไอ 5 และ คอร์ ไอ 7

นอกจากนั้นในส่วนแบตเตอรีที่ทางเลอโนโวอนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อแบตเตอรี เสริม (Slice Battery) มาใส่เพิ่มเติมและทำให้ Lenovo ThinkPad X1 มีอายุการใช้งานต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งที่ 10 กว่าชั่วโมงได้ไม่ยาก


MSI GE620 - แบรนด์เอ็มเอสไอจากไต้หวันอาจเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้โดดเด่นในตลาดแล็ปท็อป แต่สำหรับรุ่น GE620 ต้องยอมรับว่าเอ็มเอสไอทำการบ้านมาดีและโดดเด่นในเรื่องสเปกเทียบราคา เพราะตัวเครื่องมีราคาเพียง 3 หมื่นบาทต้นๆ แต่สเปกที่ให้มากลับสูงและสามารถใช้งานได้จริง

ยกตัวอย่างเช่น สเปกตัวเครื่องที่ให้มาเป็น คอร์ไอ 7 พร้อมกราฟิกชิป NVIDIA GeForce GT540M ที่รองรับการเล่นเกมสามมิติของปี 2011 ได้เกือบทุกเกม ส่วนผู้ใช้ที่เป็นคอภาพยนตร์ GE620 ก็ใส่ส่วนควบคุมเสียงมาตรฐาน THX TruStudio Pro มาให้ และสุดท้ายสำหรับผู้ใช้ที่เน้นการทำงานกราฟิกหรือตัดต่อภาพยนตร์ที่ต้องใช้ ความเร็วฮาร์ดดิสก์สูง ใน GE620 ก็แนบฮาร์ดดิสก์รุ่นท็อปสุดของ Western Digital มาให้ในขนาดความจุ 500GB

แก็ดเจ็ต
Logitech Wireless Solar Keyboard K750 - ความพิเศษของคีย์บอร์ดจากลอจิเทครุ่นนี้ที่โดนใจทีมงานไซเบอร์บิซนอกจากระบบ ไร้สายแล้ว K750 ยังเป็นคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมแนวคิดเก๋ๆ ว่า "Plug and forget" เพราะ K750 ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรีและไม่ต้องกลัวพลังงานหมด กล่าวคือ K750 เป็นคีย์บอร์ดที่มาพร้อมแผงโซล่าเซลล์ที่สามารถรับพลังงานจากทั้งหลอดไฟตั้ง โต๊ะ ไฟเพดานถึงแสงจากดวงอาทิตย์ เพื่อชาร์จไฟเก็บไว้ในตัวได้ตลอดเวลา

นอกจากนั้นอายุการใช้งานแบตเตอรีเมื่อชาร์จไฟเต็ม 100% จะมีอายุอยู่ที่ประมาณ 1-2 เดือนโดยไม่ต้องปิดสวิตซ์เมื่อไม่ใช้งานเหมือนแบรนด์อื่นๆ

ASUS WL-330N3G - เชื่อว่าผู้อ่านที่เป็นนักธุรกิจหรือต้องเดินทางไปนอนค้างคืนที่โรงแรมต่าง จังหวัดหรือต่างประเทศบ่อยๆ ต้องพบปัญหาสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไม่สามารถต่ออินเตอร์เน็ตได้ เพราะที่พักไม่มีอินเตอร์เน็ตไร้สาย แต่มีเพียงอินเตอร์เน็ตจากสายแลนเท่านั้น

ซึ่งไวเลส ASUS WL-330N3G จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นและจากการทดสอบใช้งานพบว่าถูกใจทีมงานไซเบอร์บิซจน ต้องยกให้ติดอันดับสินค้าไอทีโดนใจประจำปี เพราะด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็ก พกพาสะดวก โดยจากการทดสอบใช้จริง แค่เพียงนำสายแลนจากที่พักมาเสียบเข้ากับไวเลสเราท์เตอร์นี้ ผู้อ่านก็สามารถใช้งานไวเลสอินเตอร์เน็ตไร้สายกับแท็บเล็ต แล็ปท็อป หรือสมาร์ทโฟนได้ทันที

อีกทั้งความสามารถพิเศษอื่นๆ ที่ WL-330N3G มี อย่าง 3G Sharing, Repeater และ Hotspot ที่เน้นการใช้งานแบบ Plug and Play ก็ช่วยเติมเต็มความสามารถให้ WL-330N3G เป็นแก็ดเจ็ตพกพายอดเยี่ยมแห่งปีได้ไม่ยากแต่อย่างใด


5 เทคโนฯ - สินค้าไอที สุดแป๊ก! แห่งปี

นอกจากปี 2011 จะเป็นปีที่มีผลิตภัณฑ์อย่างแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ออกสู่ตลาดอย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกือบจะแจ้งเกิดได้ในตลาด แล้วก็หายตัวไปแบบเงียบๆอยู่เช่นเดียวกัน ดังนั้นนอกจาก 10 สินค้าไอทีโดนใจทีมงานประจำปีนี้แล้ว มาดูกันถึง 5 สินค้าสุดแป๊กในปี 2011 กันบ้างดีกว่า

สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

วินโดวส์ โฟน 7 - เรื่องแรก คงหนีไม่พ้นระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟน ที่ได้ดิบได้ดีในตลาดแถบประเทศยุโรป และประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก นั่นคงหนีไม่พ้น "วินโดวส์ โฟน 7 (Windows Phone 7)" ที่จนแล้วจดรอดมาถึงปลายปี ก็ยังไม่มีการพัฒนาตัวโอเอสให้รองรับการใช้งานภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ

เหตุการณ์น่าสนใจสำหรับวินโดวส์ โฟน 7 ในบ้านเราคงหนีไม่พ้นการทำตลาดของสมาร์ทโฟน ภายใต้แบรนด์เอชทีซี ในรุ่น Mozart ที่ถือว่าเป็นรุ่นที่มีการลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ จนกลายเป็นซื้อ 1 แถม 1 กันเลยทีเดียว จากราคาเปิดตัวเกือบๆ 2 หมื่นบาท กลับมีการลดราคาลงไปเหลือไม่ถึงหมื่นบาท ทำให้ Mozart ซึ่งถือว่ามีสเปกที่ไม่ขี้เหร่ ได้ใจคนอยากใช้สมาร์ทโฟนแต่งบน้อยกันไปเลยทีเดียว

ส่วนความคืบหน้าในการทำตลาดของ WP7 ในปีหน้า ภาระคงไปตกอยู่กับพี่ใหญ่อย่างโนเกีย ที่กำฟางเส้นสุดท้าย ในการที่จะช่วยให้ WP7 ได้แจ้งเกิดในตลาดไว้ จากอภิมหาโปรเจกต์ความร่วมมือครั้งสำคัญ ระหว่างโนเกีย และไมโครซอฟท์ ที่จะนำ WP7 มาเป็นระบบปฏิบัติการหลักบนสมาร์ทโฟนของโนเกียต่อไปในอนาคต

และแม้ว่าในตลาดต่างประเทศจะเริ่มมีการวางจำหน่าย Lumia 800 วินโดวส์โฟนจากโนเกียไปกันแล้ว แต่สำหรับในประเทศไทยทางทีมผู้บริหารโนเกีย ยังต้องอดทนรอต่อไปกับการพัฒนาภาษาไทย ให้สามารถใช้งานได้กันต่อไป


แบล็กเบอรี เพลย์บุ๊ก - ในส่วนของตลาดแท็บเล็ตนอกจากระบบปฏับัติการที่ได้รับความนิยมในตลาดอย่าง iOS และ Android แล้ว ก็ยังมีระบบปฏิบัติการ QNX ที่ทำงานบนแบล็กเบอรี เพลย์บุ๊ก อีกตัวที่น่าสนใจ จากความสามารถที่โดดเด่นในเรื่องของการใช้งานมัลติเทสกิ้งและความปลอดภัยใน การใช้งานอีเมลของแบล็กเบอรีเซอร์วิส ทำให้ขณะที่เริ่มทำตลาดในประเทศไทย ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

แต่หลังจากเริ่มขาย ข้อจำกัดแรกที่ตามมาหลอกหลอนผู้ใช้ชาวไทยอีกครั้งคือ ในเรื่องของการป้อนภาษาไทย ที่ยังไม่สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ส่งผลให้เพลย์บุ๊กไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ยังไม่นับรวมกับข้อจำกัดในการที่ต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนแบล็กเบอรี (Bridge) เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถใช้งาน แชท อีเมล และปฏิทินได้

ซึ่งถ้ามองถึงประสิทธิภาพของเพลย์บุ๊กแล้ว เรียกได้ว่าแทบไม่เป็นรองกับเจ้าอื่นๆในตลาดเลย แถมยังดีกว่าในบางสิ่งด้วยซ้ำไป อย่างการที่ตัวเครื่องสามารถเล่นไฟล์ภาพยนตร์ความละเอียดสูง 1080p ได้อย่างไม่มีกระตุก ขนาดของตัวเครื่องที่ถือว่าพอดีมือ การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ที่ลื่นไหล แต่แล้วความนิยมของเพลย์บุ๊กก็ค่อยๆเงียบหายไปจากตลาดอยู่ดี

จุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้เพลย์บุ๊ก ทั้งรุ่นนี้ และรุ่นใหม่ เข้ามาได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทยคงหนีไม่พ้น BB OS10 ที่ผู้ใช้เพลย์บุ๊กจะสามารถนำแอปพลิเคชันที่หลากหลายจากแอนดรอยด์เข้ามาใช้ งาน รวมกับการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บเบราว์เซอร์ การจัดการไฟล์ในตัวเครื่อง และแน่นอนการป้อนข้อมูลภาษาไทย ที่จะได้เห็นกันในช่วงปี 2555 อย่างแน่นอน


MeeGo - Nokia N9 - การวางจำหน่ายในโนเกีย N9 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MeeGo หลังจากที่โนเกียประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ส่งผลให้เหมือนเป็นตัดหางปล่อยวัดลูกเมียน้อยอย่าง MeeGo ที่โนเกีย และ อินเทล ร่วมกันเข็นออกมาหวังให้เป็นสุดยอดสมาร์ทดีไวส์แห่งยุค กันอย่างไร้เยื้อใย

และจากความไม่แน่นอนในอนาคตของระบบปฏิบัติการ ทำให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน ที่ส่วนใหญ่ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา เบือนหน้าหนี N9 ในทันที จึงทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมในตลาด อย่างที่โนเกียเคยหวังไว้

ถ้ามองในแง่ของการใช้งาน MeeGo บน N9 นั้นแทบไม่แตกต่างจากระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนอื่นๆในตลาดเลย เพราะสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆได้อย่างหลากหลาย จะเสียก็ตรงจำนวนแอปฯที่มีให้ดาวน์โหลด น้อยกว่าคู่แข่งสำคัญอย่าง iOS และ Android อย่างเห็นได้ชัด ส่วนในมุมของสเปกแล้ว N9 อย่างหน่วยประมวลผล 1GHz และ กล้อง Carl Zeiss 8 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่ามีภาษีค่อนข้างสูงในเวลานั้นก็ยังไม่ได้รับความนิยมอยู่เช่นเดิม

หลังจากนี้คงต้องจับตาดูกันต่อไป ระหว่างความร่วมมือของโนเกีย และอินเทล ที่มีไมโครซอฟท์มาเบียดแย่งไปนั้น จะออกมาในรูปแบบใด ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นฟีเจอร์เก๋ๆของ MeeGo บนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน ของโนเกีย ก็เป็นได้


แล็ปท็อป

NVIDIA Optimus Technology - ปีนี้ต้องยอมรับว่าทีมงานไซเบอร์บิซได้รับแล็ปท็อปมาทดสอบน้อยมาก จนไม่สามารถหาแล็ปท็อปสุดแป้กแห่งปีได้ แต่ด้วยจำนวนที่น้อยนิดของแล็ปท็อปที่ส่งมาทดสอบ ในอัตราส่วน 3 ใน 4 ทีมงานพบว่าเทคโนโลยี NVIDIA Optimus จากปีที่แล้วถูกบรรจุมากับแล็ปท็อปที่ส่งถึงมือทีมงานมากที่สุด

โดยเทคโนโลยี NVIDIA Optimus ถูกใช้เพื่อให้แล็ปท็อปที่มีกราฟิกแยกของ NVIDIA สามารถปรับสู่โหมดประหยัดพลังงานด้วยระบบไฮบริดระหว่างกราฟิกออนบอร์ดที่ บริโภคพลังงานน้อยกับกราฟิกชิปแยกที่เหมาะแก่การใช้ประมวลผลเกมหรือ ซอฟต์แวร์ 3 มิติหนักๆ

และความไม่สมบูรณ์จนกลายเป็นเทคโนโลยีสุดแป๊กจากปีที่แล้วก็กลับมา เกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ เพราะทันทีที่ทีมงานทดสอบการสลับกราฟิกการ์ดจากออนบอร์ดไปยังกราฟิกแยกเพื่อ นำไปเล่นเกม กลับพบว่าการทำงานผ่าน NVIDIA Optimus ไม่สมบูรณ์จนเป็นผลให้เกม 3 มิติแสดงผลเฟรมเรตผิดพลาดจนกระตุก บ้างก็เล่นไม่ได้ บ้างก็ทำเครื่องติด BSOD (Blue Screen of Death) ทั้งๆ ที่ปัญหาดังกล่าวน่าจะถูกแก้ไขให้หมดสิ้นไปแล้ว

ท้ายสุดสำหรับ 10 เด่น 5 แป้ก เทคโนฯ - สินค้าไอทีในปี 2011 ก็ถือว่าเป็นสินค้าที่โดดเด่นที่ทีมงานไซเบอร์บิซได้ทดสอบมาตลอดทั้งปี 2011 และคาดว่าจะยังคงอยู่ในตลาดไอทีไปถึงช่วงกลางปีหน้า ซึ่งหลังจากนั้นตลาดไอทีถึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสู่ยุคต่อไปอีกครั้ง แล้วพบกันในปี 2012 ครับ...