อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ ชูไอทีช่วยเสริมศักยภาพงาน รองรับเป้าหมายขยายธุรกิจสู่การเป็น “สเปเชียลมอลล์”

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ ชูไอทีช่วยเสริมศักยภาพงาน วางใจเลือกฟอร์ติเน็ตเสริมประสิทธิภาพระบบหลังบ้าน รองรับเป้าหมายขยายธุรกิจสู่การเป็น “สเปเชียลมอลล์” ชั้นนำในไทยพร้อมกรุยทางลุยตลาดอินเตอร์ในอนาคต

นายจำรัส แซ่หยาง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ จำกัด เผยว่า อินเด็กซ์ วางกลยุทธ์ให้ระบบไอทีเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการ สานแผนก้าวสู่การเป็น “สเปเชียลมอลล์” ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ และของใช้ตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยแต่ละปีวางงบลงทุนไว้ราว 5% ของรายได้รวม

ทั้งนี้ระยะเวลา 4 ปีที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านไอทีเห็นได้ว่าช่วยให้ต้นทุนด้านบุคลากรลด ลง ทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานลื่นไหลมากขึ้น ปัจจุบันมีทีมงานดูแล 22 คน แผนการขยายงานปีนี้ไม่เน้นการเพิ่มจำนวนคน แต่เน้นการสร้างทักษะโดยพนักงาน 1 คนต้องทำงานได้หลายประเภท

นอกจาก นี้ 2 ปีที่ผ่านมาที่เริ่มปูทางสร้างระบบอีคอมเมิร์ซอย่างเป็นรูปธรรมรายแรกในไทย จากนี้เตรียมโฟกัสการทำตลาดมากขึ้น เชื่อว่าบริษัทพร้อมแล้วทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน และเพย์เม้นท์เกตเวย์ที่ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยรองรับการชำระเงิน

เขา กล่าวว่า แต่ละปีการซื้อขายสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และของใช้ตกแต่งบ้านในระบบออ นไลน์ในตลาดรวมแทบไม่เติบโต มีมูลค่า 100-200 ล้านบาท เหตุมาจากพฤติกรรมของลูกค้าที่นิยมเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเอง และไม่เชื่อมั่นระบบการจ่ายเงิน ของอินเด็กซ์เอง มีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 1% แต่อนาคตจะผลักดันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นโดยวางแผนจะขยายธุรกิจออนไลน์ให้ เติบโตไปในตลาดต่างประเทศ ขณะนี้เหลือเพียงการจัดการด้านระบบขนส่งให้เรียบร้อยเท่านั้น

ขณะ เดียวกัน เลือกใช้ซอฟต์แวร์โซลูชั่นด้านรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย “ฟอร์ติเกต” และ ฟอร์ติอนาไลเซอร์” ของบริษัท ฟอร์ติเน็ต อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ รองรับการขยายตัวธุรกิจพร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า

"เรา ใช้ลงทุนกับฟอร์ติเน็ตไปราว 2 ล้านบาท การเลือกคู่ค้าเน้นผู้ผลิตที่ช่วยแก้ปัญหาให้ได้ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และโซลูชั่นที่ใช้กับการดำเนินงานได้จริง"

นายพีระพงศ์ จงวิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฟอร์ติเน็ต อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดซีเคียวริตี้ประเทศไทยปี 2555 ตามการประเมินของบริษัทวิจัยฟรอสต์ แอนด์ ซิลลิแวน ระบุไว้ว่า มีอัตราการเติบโตราว 20% ตลาดที่ใหญ่ที่สุดคือซอฟต์แวร์ประเภทไฟร์วอลล์ และวีพีเอ็นในสัดส่วน 70% ที่มาแรงคือโมบาย คลาวด์คอมพิวติ้ง และเวอร์ชวลไลเซชั่นซึ่งจะเป็นตัวผลักดันให้ตลาดเติบโตมากขึ้น

เขา กล่าวถึงทิศทางธุรกิจว่า เตรียมโฟกัสตลาดต่างจังหวัดต่อยอดแผนงานของปีที่ผ่านมาที่แต่งตั้งเดอะแวลลู ซิสเต็มส์ เป็นดิสทริบิวเตอร์รายใหม่ โดยเตรียมลงทุนบุคลากรฝ่ายขายเข้าไปช่วยดูแลตลาดอีก 2 คน และไตรมาสที่ 2 จะเพิ่มฝ่ายเทคนิคที่เป็นคนไทยอีก 1 คน เสริมด้วยการนำโปรดักส์ใหม่ๆ เข้ามาเปิดตลาดต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการเข้าไปให้ การศึกษากับตลาดในระดับเอ็นยูสเซอร์ร่วมกับองค์กรภาครัฐและเอกชนในไทยเพื่อ ผลักดันตลาด ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไม่น้อยกว่า 30% ตามเป้าหมายของบริษัทแม่ที่วางไว้ให้ทุกปี