User Online ( 13 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ไมโครซอฟท์ ปูทางตลาด BCP รับภัยพิบัติ
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ไมโครซอฟท์ ปูทางตลาด BCP รับภัยพิบัติ

ไมโครซอฟท์ เร่งผลักดันองค์กรขนาดใหญ่ ให้นำไอทีมาใช้วางแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หวังขยายตลาดแพลตฟอร์ม ให้ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา แม้เกิดภัยพิบัติ หรือเหตุไม่สงบทางการเมือง หลังแบงก์ชาตินำร่องใช้งานแล้ว

นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภัย ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหลายทวีปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในวงกว้างจากการวิเคราะห์ของเวิลด์ แบงก์พบว่า อุทกภัยในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คิดเป็นความเสียหายมูลค่ากว่า 4.2 พันล้านเหรียญ หรือราว 1.3 หมื่นล้านบาท มีผู้เสียชีวิตราว 700 คน

ขณะที่ภาพรวมครึ่งปีงบประมาณของไมโครซอฟท์ แน่นอนว่าโดนผลกระทบจากน้ำท่วม ในแง่ของจำนวนคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้จำหน่ายออกไป แต่ยังสามารถเติบโตได้ในระดับ 2 หลัก แม้จะลดลงจากเป้าที่ตั้งไว้ ทำให้ในครึ่งปีหลังจะเน้นไปที่การวางแผนดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan : BCP) เพื่อให้สามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

'ภัยพิบัติอาจเกิดขึ้นอีก จึงควรที่จะมีการวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องสำหรับทุกภาคส่วน และแน่นอนว่าไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับไอที จึงเน้นที่จะนำการใช้งานไอที มาใช้ในช่วงภัยพิบัติ ให้ไอทีกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ BCP สามารถดำเนินการต่อไปได้'

แม้ว่าหลายบริษัทจะมี BCP แต่เชื่อว่าหลายองค์กรยังไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากยังไม่มีความเข้าใจในการนำมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดย 3 เหตุหลักที่ทำให้เกิดการนำไอทีเข้ามาประยุกต์ใช้ ยกตัวอย่างในเหตุการณ์น้ำท่วม พนักงานไม่สามารถติดต่อสื่อสาร ไม่สามารถเข้าที่ทำงาน และไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก

โซลูชัน BCP ของไมโครซอฟท์จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆคือ 1. Teleworking ทำให้สามารถทำงานที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ทางอินเทอร์เน็ต 2. Energy and Cost saving โดยวินโดวส์ 7 และ เซิร์ฟเวอร์ 2008 ช่วยประหยัดพลังงาน 25% ทำให้ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติสามารถทำงานต่อไปได้ และ 3. Data Protection and Virtualization ที่มีระบบสำรอง และกู้ข้อมูลภายในตัว จะช่วยให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศ ไทย ได้ลงทุนทำระบบ BCP ไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ในช่วงภัยพิบัติ ธนาคารสามารถดำเนินการต่อไปได้ แม้พนักงานหลายคนจะโดนผลกระทบจากน้ำท่วม หรือแม้แต่ภายในไมโครซอฟท์เองก็เช่นกัน ที่พนักงานกว่า 71% ของบริษัทต้องอพยพจากพื้นที่ภัยพิบัติ

'การลงทุนด้านโซลูชัน BCP จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ สร้างอินฟราสตรักเจอร์เพื่อใช้ภายในองค์กร หรือ เช่าคลาวด์ของไมโครซอฟท์เพื่อใช้งานในองค์กรขนาดเล็ก ทำให้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หลักพันบาทต่อบัญชีผู้ใช้ โดยกลุ่มลูกค้าหลักของ BCP จะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอีเป็นหลัก'
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.