User Online ( 9 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » หวั่นปีนี้ยอดใช้จ่ายไอทีโตน้อย
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

หวั่นปีนี้ยอดใช้จ่ายไอทีโตน้อย

การ์ทเนอร์ (Gartner) บริษัทวิจัยระดับโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดซื้อสินค้าและบริการไอทีทั่วโลก ประจำปี 2012 หวั่นผลกระทบจากปัญหาค่าเงินยูโรและวิกฤตวงจรการผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ติด ขัดเพราะพิษน้ำท่วมไทยทำให้ตลาดไอทีโลกปีนี้เติบโตน้อยลงกว่าที่การ์ทเนอร์ เคยคาดการณ์ไว้ในปีก่อน

ริชาร์ด กอร์ดอน (Richard Gordon) รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ ให้ข้อมูลว่ามูล ค่าตลาดสินค้าและงานบริการไอทีตลอดปี 2012 นี้จะอยู่ที่ระดับ 3.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 3.7% จากปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดเม็ดเงินในอุตสาหกรรมไอทีสะพัดไปรวม 3.7 ล้านล้านเหรียญ และมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 6.9% จากปี 2010

"เพราะภาวะการเติบโต ของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว วิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป พร้อมกับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมประเทศไทยต่อสายการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) ทั้งหมดมีผลให้การใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการไอทีทั่วโลกลดลง"

ตัวเลขพยากรณ์ 3.7% นี้เป็นการปรับลดลงจาก 4.6% ซึ่งการ์ทเนอร์เคยทำนายไว้ สาเหตุการปรับลดมาจากปัจจัยด้านลบทั้งปัญหาเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและปัญหา ภัยธรรมชาติที่ทำให้วงจรการผลิตอุปกรณ์ไอทีหยุดชะงัก เบื้องต้น การ์ทเนอร์เชื่อว่าธุรกิจโทรคมนาคมจะเป็นส่วนตลาดที่มีการเติบโตมากที่สุดใน ปีนี้

การ์ทเนอร์เชื่อว่า เม็ดเงินสะพัดเฉพาะตลาดโทรคมนาคมจะมีอัตราเติบโต 6.9% คิดเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่สูงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมไอซีที รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรธุรกิจ อัตราการเติบโต 6.4% อันดับ 3 คือกลุ่มธุรกิจฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ซึ่งมีอัตราการเติบโต 5.1%

สำหรับตลาดบริการงานไอที การ์ทเนอร์ประเมินว่าตลาดจะเติบโตราว 3.1% ในปีนี้ แต่ตลาดงานบริการในธุรกิจโทรคมนาคมนั้นคาดว่าจะมีอัตราเติบโตเพียง 2.3% เท่านั้น

การ์ทเนอร์ยังตั้งข้อสังเกต ว่า ภาวะน้ำท่วมซึ่งทำให้ประเทศไทยเกือบ 1 ใน 3 จมบาดาลนั้นจะส่งผลต่อตลาดไอทีโลกอย่างมาก โดยสายการผลิตฮาร์ดไดร์ฟที่ไม่ลื่นไหลอย่างเคยล้วนมีผลเสียต่อทั้ง อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและสินค้าคอมพิวเตอร์สำเร็จอย่างเท่าเทียมจุดนี้นัก วิเคราะห์ของการ์ทเนอร์เชื่อว่า สายการผลิตฮาร์ดไดร์ฟจะลดลงมากกว่า 25% ในช่วง 6 - 9 เดือนข้างหน้า

ระยะเวลาที่การ์ทเนอร์ประเมินว่าโลกจะต้องอยู่ในภาวะขาดแคลน ฮาร์ดไดร์ฟนั้นยาวนานกว่าบริษัทวิจัยรายอื่น ซึ่งคาดไว้ว่าจะมีผลในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้เท่านั้น จุดนี้การ์ทเนอร์ให้ข้อมูลว่าเพราะกระบวนการฟื้นฟูสายการผลิตทั้งการก่อ สร้างโรงงานแห่งใหม่ และการสรรหาเครื่องจักรใหม่ล้วนต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ซึ่งมีแนวโน้มด้วยว่าสถานการณ์ตลาดฮาร์ดไดร์ฟจะไม่ปกติจนถึงปลายปี 2012 และอาจส่งผลถึงปี 2013 ด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ผลิตพีซีรายใหญ่จะสามารถสร้างโอกาสจากวิกฤตฮาร์ดไดร์ฟขาดแคลน ด้วยการจำหน่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้หน่วยความจำชนิดอื่นแทนได้ แต่การ์ทเนอร์ยังเชื่อว่าปริมาณการจัดส่งคอมพิวเตอร์พีซีในปีนี้จะลดลงแน่ นอน ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่ผู้เล่นระดับกลางจะได้รับผลกระทบมากกว่าใคร

สำหรับวิกฤตเงินยูโร การ์ทเนอร์มองว่าจะกระทบกับทั้งภาพธุรกิจและผู้บริโภคในท้องถิ่น จุดนี้ทำให้การ์ทเนอร์เชื่อว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าไอทีในพื้นที่ยุโรป ตะวันตกจะลดลงมากกว่า 1% ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่นั้นรู้กันได้ในปีนี้
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.