User Online ( 42 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » เอชพีสู้ศึกคอมพ์บางเบา
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

เอชพีสู้ศึกคอมพ์บางเบา

“เอชพี” เกาะกระแส โน้ตบุ๊ก “บางเบา” เปิดตัวไลน์โน้ตบุ๊กใหม่ 3 รุ่นตอบโจกย์กระแสตลาดที่ไอดีซีคาด 4 ปีข้างหน้ามีผู้ใช้ถึง 95 ล้านเครื่อง พร้อมส่ง “อัลตราบุ๊ก 13 นิ้ว” ตัวแรกที่เน้นตลาดองค์กร ยันเน้นรักษาสมดุลระหว่างส่วนแบ่งตลาดกับกำไร

นายมอนตี้ หว่อง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนล ซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ในพอร์ทโฟลิโอคอนซูมเมอร์โน้ตบุ๊กของเอชพีที่จะเน้นการทำตลาด มากขึ้นในปี 2555 จะเป็นเรื่องของ ความบางเบา หรือธิน แอนด์ ไลท์ ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มตลาดหนึ่งที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปีหน้าเชื่อว่าจะเป็นกระแสที่มากแรงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดขึ้นมาของตลาดเซกเมนต์ใหม่ที่เป็นกลุ่มอัลตร้าบุ๊ก

“จากการคาดการณ์ของไอดีซี ที่ระบุว่า โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ในกลุ่มอัลตร้าบุ๊กจะมีการส่งมอบเข้าสู่ตลาดถึงมือผู้ บริโภคภายในปี 2558 สูงถึง 95 ล้านเครื่อง”

ล่าสุดทางเอชพีได้เปิดตัว "เอชพี โฟลิโอ13" ที่เป็นอัลตราบุ๊กรุ่นแรกที่ออกแบบมสำหรับตลาดองค์กร ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานสูงสุดถึง 9.5 ชั่วโมง มาพร้อมช่องสำหรับเชื่อมต่อมากมายทำให้ไม่ต้องพกอุปกรณ์ต่อเชื่อมจึงเหมาะ กับกลุ่มผู้ใช้องค์กรที่ต้องโน้ตบุ๊กที่ต้องการความคล่องตัวในการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะพอร์ตแลนขณะที่อัลตร้าบุ๊กแบรนด์อื่นมีแต่ระบบสื่อสารไวไฟ

ขณะที่ความบางของตัว เครื่องอยู่ที่ 0.75 นิ้ว หน้าจออัลตร้าสลิม 13.3 นิ้วแบบ HD BrightView และน้ำหนักพกพาสะดวกเพียง 1.5 กิโลกรัม ส่วนขุมพลังของ "เอชพี โฟลิโอ13" มาพร้อมหน่วยประมวลผล อินเทค คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชัน 2 ของอินเทล และยังให้สมรรถนะการทำงานด้วยเทคโนโลยี Intel Rapid Start ช่วยให้กินไฟน้อยลงเมื่อไม่ใช้งาน และเริ่มต้นใช้งานอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่อีกด้วย ในระดับราคา 39,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

เอชพี พาวิลเลียน ดีเอ็ม4 โดดเด่นที่ระบบเสียงที่ใส่ซับวูฟเฟอร์ถึง 2 ตัวและเทคโนโลยี Beats Audio ใส่กราฟิกการ์ดจาก AMD Radeon HD discrete graphics ทำให้การใช้งานทางด้านกราฟิกแรงยิ่งขึ้น แบตเตอร์รี่ใช้งานยาวนานสูงสุด 7 ชั่วโมง ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 2 กิโลกรัม ในราครา 33,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อแสดงถึงเทรนด์โน้ตบุ๊กบางเบา เอชพียังได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ในระดับไฮเอนด์อีก 2 รุ่น ประกอบไปด้วย "เอชพี พาวิลเลียน ดีเอ็ม4" และ "เอชพี เอ็นวี่15"

เอชพี พาวิลเลียน ดีเอ็ม4 โดดเด่นที่ระบบเสียงที่ใส่ซับวูฟเฟอร์ถึง 2 ตัวและเทคโนโลยี Beats Audio ใส่กราฟิกการ์ดจาก AMD Radeon HD discrete graphics ทำให้การใช้งานทางด้านกราฟิกแรงยิ่งขึ้น แบตเตอร์รี่ใช้งานยาวนานสูงสุด 7 ชั่วโมง ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 2 กิโลกรัม ในราครา 33,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

เอชพี เอ็นวี่ 15 เป็นโน้ตบุ๊กระดับพรีเมี่ยมมาพร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสง Radiance Backlit ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Advanced Proximity Sensor ทำให้ตอบสนองการใช้งานเมื่อผู้ใช้อยู่ใกล้เครื่องโน้ตบุ๊ก โดยไฟที่แป้นพิมพ์ก็จะสว่างขึ้น และไฟที่แป้นพิมพ์ก็จะหรี่ลงเมื่อผู้ใช้งานออกไปจากบริเวณหน้าจอ

ระบบเสียงของเอชพี เอ็นวี่ 15 เ เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ทางเอชพีเพิ่มปรับปรุงให้ทรงพลังขึ้น ด้วยลำโพงในตัวถึง 6 ตัว และซับวูฟเฟอร์อีก 2 ตัว ผสานเทคโนโลยี Beats Audio เทคโนโลยีเพื่อคุณภาพเสียงที่ พัฒนาขึ้นโดยเอชพีและ Beats by Dr. Dre ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงทุกอารมณ์แห่งการรับฟัง คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ นอกจากนี้ที่ตัวเครื่องยังมีปุ่มหมุนปรับระดับเสียงแบบอนาล็อกที่ดีไซน์ออก มาอย่างลงตัว และสามารถทำงานร่วมกับ Beats AudioTM Manager ได้อย่างไร้รอยต่อ ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับเสียงได้อย่างง่ายดายและแม่นยำเพียงปลายนิ้ว ในราคา 57,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

“ทั้ง 3 รุ่น เป็นโน้ตบุ๊กในไลฟ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ปี 2555 ของเอชพีที่เน้นตลาดลูกค้าองค์กร เพราะด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการทำงาน และยังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้หลังจากทำงานได้ แน่นอนมาพร้อมกับกระแสของธิน แอนด์ ไลท์ที่กำลังมาแรงในปีหน้า”

นายหว่องกล่าวถึงแนวทางการตลาดในปีหน้าให้ฟังว่า ทางเอชพียังจะคงสร้างความสมดุลระหว่างส่วนแบ่งตลาดกับกำไร จะเห็นว่า ไม่ได้ลงมาเล่นราคาเท่าไรนัก โดยปีหน้าจะเน้นการตลาดในระดับกลางจนถึงระบบบน เพื่อให้สามารถทำกำไรได้พร้อมๆ กัน โดยไม่จำเป็นต้องขายสินค้าในราคาต่ำที่สุดเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ผ่านมาของเอชพีที่มีผลกำไรดีที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับผู้ค้าพีซีรายอื่นๆ

“ถึงแม้ส่วนแบ่งตลาดจะเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ในขณะเดียวกันประสบการณ์ของผู้ใช้ต่อสินค้าก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่น กัน เป็นเหตุผลที่ทำให้เอชพีเน้นการสร้างความสมดลระหว่างส่วนแบ่งตลาด และการสร้างผลกำไร ซึ่งเราจะไม่ได้เน้นขายของถูกอย่างเดียวเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งตลาดเยอะๆ แต่เราจะขายของให้ได้กำไรด้วย"

ส่วนเป้าหมายการเติบโตในปีหน้านั้น นายหว่องกล่าวว่า เอชพียังตั้งเป้าเติบโตเป็น 2 เท่าของตลาด โดยไอดีซีระบุว่า ตลาดพีซีมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 8-10%
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.