User Online ( 61 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » เอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ ซีพียูเปลี่ยนโลก "เทคโนโลยี"
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

เอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ ซีพียูเปลี่ยนโลก "เทคโนโลยี"

"ถ้าหากคนทั่วไปใช้รายได้เพียง 5 สัปดาห์ ซื้อโน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ได้ เมื่อนั้นจะทำให้เกิดโวลุ่มการซื้อขายจำนวนมหาศาล"

เมื่อนาฬิกาของบริษัท ผลิตโปรเซสเซอร์ยักษ์ใหญ่ของโลกส่งเสียงดัง "ทิค (Tick)" นั่นแปลว่าเทคโนโลยีการประมวลผลบนคอมพิวเตอร์กำลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน อีกครั้ง ด้วยโรดแมพการพัฒนาโปรเซสเซอร์ที่อินเทลยึดถือกับเงื่อนเวลา "ทิค-ทอค (Tick-Tock)"

โดยนิยามให้เสียงนาฬิกาที่ดัง "ทิค" นั่นคือ ปีที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ๆ ของการผลิตชิพ หรือซีพียู หรือโปรเซสเซอร์แล้วแต่จะเรียก ขณะที่เสียง "ทอค" จะเป็นการเปลี่ยนแปลงระดับย่อมลงมา

ปี 2555 เสียง "ทิค" กำลังจะดังขึ้นอีกครั้งกับการพัฒนาสถาปัตยกรรมการผลิตที่ย่อลงมาจนถึงระดับ ที่เล็กเพียง 22 นาโนเมตรจากปัจจุบัน 32 นาโนเมตร ซึ่งผลที่ได้คือ ความสามารถในการผลิตโปรเซสเซอร์ขนาดเล็กที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง และโอกาสที่ผู้ผลิตพีซีจะดีไซน์ตัวเครื่องให้มีรูปลักษณ์บางและเบาลงได้อีก ถือเป็นพัฒนาการขั้นสุดยอดหลังจากที่มีซีพียูตัวแรกเกิดขึ้นบนโลกใบนี้เมื่อ 40 ปีก่อน

แจ้งเกิดโน้ตบุ๊คพันธุ์ใหม่

เอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันว่า ปี 2555 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของโน้ตบุ๊คที่คนส่วนใหญ่จะนิยมชมชอบอย่าง แน่นอนด้วยโน้ตบุ๊คกลุ่มใหม่ที่อินเทลให้คำจำกัดความว่า "อัลตราบุ๊ค" ที่หมายถึงโน้ตบุ๊คที่มีคุณลักษณะบางและเบามากเป็นพิเศษ

"ปีหน้าเราจะได้เห็นคอนเทนท์ และสเปคของอัลตราบุ๊คเยอะขึ้น และคนทั่วไปก็จะเริ่มรู้จัก และมองหาเป็นทางเลือกมากขึ้น โดยที่เราก็ตั้งความหวังว่าอัลตราบุ๊คที่ผลิตโดยพันธมิตรผู้ผลิตพีซีทั้ง หลายว่าจะสร้างส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 40%"

ผู้บริหารอินเทลอธิบายว่า "ไอวี่ บริดจ์" โค้ดเนมของสถาปัตยกรรมการผลิตชิพระดับ 22 นาโนเมตรเป็นผลผลิตที่เกิดจากการพัฒนาทรานซิสเตอร์แบบไตร- เกท หรือโครงสร้างแบบ 3 มิติเป็นครั้งแรก ซึ่งจะทำให้บริษัทผลิตชิพปริมาณมากเข้าสู่ตลาดได้ และยังเป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผลในโน้ตบุ๊คแบบอัลตราบุ๊ค

นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับอุปกรณ์ในอนาคตที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 22 นาโนเมตร ตั้งแต่มือถือที่เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่สุดจนถึงเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง

รวมถึงการพัฒนา "ซอฟต์แวร์" ที่ทำให้ "ฮาร์ดแวร์" น่าใช้มากขึ้น

จับตาเทรนด์ฮอตปี'55

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เหนือกว่าการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมพื้นฐานของ เทคโนโลยีการประมวลผลคือ การต่อยอดความก้าวหน้าจากการเปลี่ยนแปลงนั้น

เอกรัศมิ์ บอกว่า ปีหน้าจะเริ่มเห็นบทบาทของอินเทลในตลาดองค์กรมากขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นปีแรกที่จะได้เห็นชิพจากอินเทลที่รองรับการประมวลผลบน อุปกรณ์เคลื่อนที่ชนิดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากพีซี เช่น สมาร์ทโฟน และแทบเล็ต

ขณะที่ภาพรวมของตลาดเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ "คลาวด์ คอมพิวติ้ง" ก็กำลังจะเริ่มมีอิทธิพลต่อการทำงานของคนทั่วไปมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องกับการลงทุนเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่แพร่หลายในตลาด เอเชียที่กำลังเติบโต

รวมทั้งเกิดระบบนิเวศของเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง และความต้องการใช้งานโซลูชั่นจากเทคโนโลยีดังกล่าวที่ล้วนแต่จำเป็นต้องมี "โปรเซสเซอร์" ที่มีศักยภาพเป็นพื้นฐานสำคัญของระบบการประมวลผลต่างๆ

ยุคจอหลายขนาด

ทั้งนี้ยังไม่นับรวมถึงเทรนด์เทคโนโลยีที่จะเกิดในฝั่งของผู้ใช้งานทั่วไปที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีระดับโปรเซสเซอร์

"ปีหน้าเราจะเห็นภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ที่เบลอมากๆ หรือไม่ชัดเจนว่าอุปกรณ์อะไรที่จะโดดเด่น เพราะเราจะเห็นการดีไซน์เครื่องมือประมวลผลที่เป็นจอหลากหลายขนาด ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ จอมือถือ หรือจอบนแทบเล็ต โดยคนที่จะเป็นผู้กำหนดว่าอุปกรณ์อะไรจะแจ้งเกิดได้นั่นก็คือ คอนซูเมอร์เท่านั้น"

เอเชียฉายแววเด่น

นอกจากนี้ก็ยังจะเป็นปีที่ทั่วโลกเห็นตรงกันว่า คนชั้นกลางในเอเชียแปซิฟิกจะเริ่มมีบทบาทในตลาดโลกมากขึ้น เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนามที่มีประชากรจำนวนมาก ขณะที่สินค้าด้านเทคโนโลยีจะเริ่มมีราคาถูกลงทำให้คนกลุ่มนี้ซื้อสินค้าที่ ไม่เคยซื้อมาก่อนได้

ขณะที่ผู้ผลิตเทคโนโลยีส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพีซีรายใหญ่ๆ ล้วนเป็นบริษัทในเอเชีย และก็มีอีกหลายบริษัทเทคโนโลยีที่มีฐานผลิตหลักอยู่ในพื้นที่นี้

"เทรนด์กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอนคือ เอเชียจะเป็นผู้ขับเคลื่อนตลาดที่ใหญ่ที่สุดทั้งกำลังซื้อ และการเกิดของเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงคอนเทนท์ เพราะซอฟต์แวร์ทุกวันนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคอนเทนท์ได้ง่ายขึ้น ดูตัวอย่างเช่น เฟซบุ๊คที่มีผู้ใช้จำนวนมากจากคนในเอเชีย"

ทั้งมีผลสำรวจชิ้นหนึ่งช่วยตอกย้ำความโดดเด่นของตลาดเอเชียว่า ถ้าหากคนทั่วไปสามารถใช้รายได้เพียง 5 สัปดาห์ ซื้อโน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ได้ เมื่อนั้นจะทำให้เกิดโวลุ่มการซื้อขายจำนวนมหาศาล ซึ่งคนในแถบเอเชียก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นเช่นนั้น

ความปลอดภัยเรื่องใหญ่

อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะได้เห็นเป็นประเด็นใหญ่อย่างแน่นอนในโลกเทคโนโลยีปีหน้าคือ ความปลอดภัยของการใช้เทคโนโลยี

เอกรัศมิ์ เชื่อว่า พัฒนาการของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยจะเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่จะต้องถูก พูดถึงมากขึ้นในปีหน้า โดยเฉพาะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ทำให้คนส่วนใหญ่ลดความกังวลกับการใช้ บริการต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ เช่น ระบบการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่ปลอดภัยมากขึ้น

"ผลจากการที่เราเข้าไปซื้อแมคอาฟี่มา ปีหน้าก็จะเริ่มเห็นการเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ได้ดีมากขึ้น"
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.