ซีเอสล็อกซฯ เบนเข็ม บริการไอซีทีครบวงจร
ซีเอส ล็อกซอินโฟ ปรับยุทธศาสตร์จากไอเอสพีสู่ผู้ให้บริการไอซีทีครบวงจร ชี้หากแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำลดไร้ความชัดเจนอาจทำนักลงทุนย้ายฐาน
ซีเอส ล็อกซอินโฟ ปรับยุทธศาสตร์จากไอเอสพีผันสู่ผู้ให้บริการไอซีทีครบ วงจร รับเทรนด์คลาวด์คอมพิวติ้ง ระบุอนาคตฐานลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตกว่า 3,000 รายคือเป้าหมายสำคัญ เผยปัญหาน้ำท่วมหนักทำลูกค้าผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีในนิคมอุตสาหกรรมปิดโรงงาน หนี หวั่นกระทบยอดรายได้ ชี้หากไร้ความชัดเจนแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำลดอาจทำนักลงทุนย้ายฐาน
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสเทคโนโลยีเปลี่ยนไป บริษัทต้องเปลี่ยนบทบาทจากไอเอสพีเป็นผู้ให้บริการไอซีที หรือ ไอซีที เซอร์วิส โพรไวเดอร์ อย่างเต็มตัว
ปัจจุบันการให้บริการรูปแบบใหม่ เริ่มเป็นที่ต้องการของลูกค้าองค์กร โดยบริษัทจะให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดีไวซ์ทุกประเภท เช่น พีซี โน้ตบุ๊ค แทบเล็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งดำเนินการควบคู่กับการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ให้บริการไอซีที โซลูชั่นครอบคลุมทั้งวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ซีซีทีวี อีเมลภายในองค์กร หรือใช้เทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้งเข้ามาร่วมกัน
ทั้งนี้ บริษัททดลองให้บริการไอซีทีมาประมาณ 2 ปี พบว่าฐานลูกค้าองค์กรราว 3,000 รายเข้าซื้อโซลูชั่นด้านไอซีทีมากกว่า 20% ของฐานลูกค้าทั้งหมด ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บริษัทเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงาน ความต้องการหลักๆ ของลูกค้า คือ การให้บริการครบวงจรลักษณะวันสต็อปเซอร์วิส ตั้งแต่การต่อเครือข่ายไอพีกับคอมพิวเตอร์ บริการศูนย์ข้อมูล (ดาต้าเซ็นเตอร์) ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล และการแบ็คอัพข้อมูล
"ยอมรับว่าการเป็นเพียงไอเอสพีอย่างเดียวอาจจะอยู่ไม่ได้ และคำว่าไอเอสพีดูจะเก่าเกินไปแล้ว เพราะปัจจุบันนี้ลูกค้าต้องการสินค้าด้านไอทีมากขึ้น เราก็ต้องหามาตอบสนองความต้องการให้ได้ ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าจากลูกค้าคอร์ปอเรทที่ใช้อินเทอร์เน็ตของเรา 3,000 ราย มีแนวโน้มจะมาเป็นลูกค้าไอซีที เซอร์วิสนี้ทั้งหมด และกลุ่มนี้เป็นตัวทำรายได้ให้บริการเพราะมีกำลังซื้อสูง บางองค์กรซื้อโซลูชั่นของเราเดือนละกว่าแสนบาท"
ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ยังไม่ส่งผลกระทบทางตรงต่อบริษัท เพราะอินเทอร์เน็ตยังจำเป็นในการติดต่อสื่อสาร แต่ลูกค้าองค์กรของบริษัทที่มีโรงงานผลิตอุปกรณ์ไอทีอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ผลกระทบจนทำให้ต้องปิดโรงงานได้ขอใช้สำนักงานของ บริษัท ถนนรัชดาภิเษก เป็นสำนักงานชั่วคราว แต่ด้านธุรกิจยังต้องรอสถานการณ์อีกครั้งหลังน้ำลดแล้ว หากลูกค้ายังไม่สามารถเปิดโรงงานหรือให้บริการได้ก็อาจส่งผลต่อรายได้ของ บริษัทบ้าง แต่ยังไม่ได้ประเมิน
จากปี 2553 ซีเอส ล็อกซอินโฟ มีรายได้รวม 2,700 ล้านบาท กำไรสุทธิราว 400 ล้านบาท ซึ่งอัตรารายได้การเติบโตของบริษัทตามสภาวะปกติเฉลี่ยปีละ 3-5% แต่เมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ซึ่งไม่มีใครคาดคิด และไม่สามารถประเมินได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ทำให้บริษัทไม่สามารถระบุรายได้ปีนี้ได้ แต่ก็เชื่อว่าผลกระทบจากปัญหาครั้งนี้จะเริ่มเห็นอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้าเป็นต้นไป จึงต้องการให้รัฐบาลออกมาให้ความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการ หรือแผนฟื้นฟู หลังจากน้ำลด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติด้วย มิฉะนั้นอาจทำให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิตหนีจากประเทศไทย