ไมโครซอฟท์กำลังเปลี่ยนถ่ายจาก “ซอฟต์แวร์คอมปะนี” ไปสู่ “เซอร์วิสคอมปะนี” ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มคนให้ได้มากที่สุด ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการตัวหลักที่จะเป็นตัวไดรฟ์ให้ไมโครซอฟท์ก้าวสู่จุดที่ แตกต่างจากคู่แข่ง โดยมีทิศทางการตลาดที่ไม่เหมือนใคร

การขับเคลื่อนธุรกิจของ “ไมโครซอฟท์” วันนี้กำลังจะนำพาให้ไมโครซอฟท์เดินเข้าไปเจาะกลุ่มคนให้มากขึ้นและครอบคลุม ที่สุดเท่าที่เคยทำมา

“เราเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เข้าถึงคนมากที่สุด” พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

สิ่งที่ไมโครซอฟท์กำลังจะมุ่งไปคือการเปลี่ยนจาก “ซอฟต์แวร์คอมปะนี” ไปสู่ “เซอร์วิสคอมปะนี” โดยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์นับจากนี้จะเป็นแมสจริงๆ

ทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2012 จึงกำหนดภายใต้ธีม “Technology for All” บนวิสัยทัศน์ใหม่ “We Make 70 Million Lives Better” ซึ่งเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีที่หลากหลาย

ในปีนี้ไมโครซอฟท์จึงมุ่งเข้าถึงคอนซูเมอร์มากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์สะท้อนเทรนด์สำคัญด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “Location” สถานที่หรือภูมิศาสตร์ที่กลายเป็นกระแสนิยมเนื่องจากผู้คนสามารถทำงาน ณ ที่ใดก็ได้ ในทุกเวลา ประกอบกับการใช้งานสมาร์ทโฟนที่แสดงสถานที่ใช้งาน ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้งานในแต่ละพื้นที่อย่างตรงความต้องการ “Social Computing” การประมวลผลแบบสังคมช่วยให้คนติดต่อ สื่อสาร ทำกิจกรรมแบบ Work and Play ร่วมกันในรูปแบบอวตาร (avatar) ได้อย่างสมบูรณ์ “Cloud” ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งช่วยให้เกิดการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดในทุกพื้นที่ “Data service” การจัดการข้อมูลยุคใหม่จะช่วยให้การทำงานและการดำเนินชีวิตสะดวกและดียิ่ง ขึ้น

วิสัยทัศน์ “We Make 70 Million Lives Better” ไม่เพียงแต่สอดคล้องกับเทรนด์ดังกล่าว แต่ยังสะท้อนการเดินหน้าดำเนินธุรกิจร่วมกับคู่ค้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และ บริการใหม่ๆ อาทิ ช่วยพลิกโฉมธุรกิจในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยผลักดันเศรษฐกิจองค์รวมให้เติบโตอย่างมั่นคง ช่วยจุดประกายการติดต่อและสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ในโลกออนไลน์ ช่วยส่งเสริมให้คนไทยได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่และใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ปัจจุบัน เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานและไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย

“เราพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้าถึงได้ง่าย และใช้งานง่ายในราคาที่เป็นเจ้าของได้ ปัจจุบันเป็นยุคของคอนซูเมอร์ เราจึงมุ่งเทคโนโลยีและการบริการไอทีสำหรับผู้บริโภคทั่วไปเพื่อเพิ่มความ สะดวกให้ทุกไลฟ์สไตล์ในราคาที่เบาลง เมื่อเทียบกับไอทีสำหรับออฟฟิศ ในที่สุด ไอทีนอกจากจะเป็นเครื่องมือทางธุรกิจแล้ว ยังจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย”

ไมโครซอฟท์วางแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มคลาวด์คอม พิวติ้ง อาทิ Office 365 และ Windows Azure ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำธุรกิจและคุ้มค่าต่อการลงทุน สำหรับคอนซูเมอร์ ในปีนี้ไมโครซอฟท์มีผลิตภัณฑ์และแคมเปญใหม่ๆ ได้แก่ การเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ของ Hotmail การเปิดตัว Windows Experience Zone ครั้งแรกในเมืองไทยที่พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า

“โมเดลใหม่ที่จะเกิดขึ้นอยู่บนคลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งในแต่ละประเทศจะมีการนำเสนอสู่ผู้บริโภคที่แตกต่างกัน”

ด้านการเปิดตลาดสมาร์ทโฟนนั้น พีรธน มองว่าขณะนี้เกมการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนยังอยู่ในช่วงการเริ่มต้น ยังมีโอกาสและช่องว่างทางการตลาดอีกมาก และช่วงเวลานี้ไมโครซอฟท์อยู่ระหว่างการทำงานเพื่อเตรียมตลาดนี้ให้พร้อม โดยต้องการให้วินโดวส์โฟนตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานได้มากที่สุด โดยไม่ได้คำนึงว่าจะต้องเปิดโปรดักส์นี้ออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว แต่อยู่ที่จะต้องสร้างความแตกต่างให้กับวินโดวส์โฟนกับเทคโนโลยีอื่นมากกว่า

“เรามีทิศทางการทำตลาดที่ไม่เหมือนใคร การจะนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใดลงตลาด เราจะต้องมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นพร้อมที่สุดก่อน” พีรธน กล่าว