ทีโอทีฟุ้งลูกค้า 3จี ยอดทะลุ 3 แสนรายแล้ว ยันเดือนพ.ย.เปิดบริการได้แน่ 18 จังหวัดทั่วประเทศ 5,000 สถานีฐาน ไม่หวั่นคู่แข่งในตลาดปาดหน้าเปิดบริการหมดแล้ว ระบุ ทุกรายวิ่งบนเน็ตเวิร์กเดิม แค่อัพเกรดเป็นเอชเอสพีเอ ไม่เสถียรเท่าคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ของตัวเอง รับลูกไอซีทีคลอดไวไฟฟรีที่สาธารณะคาดต.ค.ได้เห็น

นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกค้าใช้บริการ 3จีของ ทีโอทีทั่วประเทศแล้ว 300,000 ราย แบ่งเป็นลูกค้าจากการทำตลาดบริการขายต่อบริการบนโครงข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) 2.2 แสนราย ส่วนลูกค้าที่ทีโอทีทำตลาดเองมีจำนวน 8 หมื่นราย ซึ่งแผนการติดตั้งโครงข่าย3จี ที่กลุ่มกิจการร่วมค้าเอสแอล คอนซอร์เตียม ชนะประมูลด้วยราคา 15,999 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างติดตั้งขยายโครงข่าย ซึ่งทีโอทีได้รับใบอนุญาตนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมจากสำนักงานคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม (กสทช.) แล้ว

เขา กล่าวว่า ช่วงแรกการติดตั้งโครงข่าย 3จีทีโอทีอาจล่าช้าไปบ้าง แต่มั่นใจว่าการเปิดบริการ จะเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งสถานีฐานของทีโอที 3จี ตามเงื่อนไขการประมูลต้องติดตั้งโครงข่ายในกทม.2,320 แห่ง ในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่อีก 3,000 กว่าแห่ง คาดว่าเดือนพ.ย.นี้ ทีโอทีจะเปิดบริการได้แน่นอนในกทม.และ18 จังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ โดยโครงข่ายที่สร้างขึ้น มีปริมาณความจุ (คาปาซิตี้) จำนวน 7.2 ล้านเลขหมาย

นายอานนท์ กล่าวด้วยว่า แม้ผู้ประกอบการมือถือเอกชนได้เปิดตัว 3จีไป ก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยการอัพเกรดเทคโนโลยีบนคลื่นความถี่เดิม (เอชเอสพีเอ) โดยผู้ประกอบการแต่ละรายก็มีฐานลูกค้าแล้วจำนวนมาก แต่ยังเชื่อว่า เมื่อถึงเวลาทื่ทีโอทีเปิด 3จีใน เดือนพ.ย.นี้ จะไม่ทำให้บริษัทเสียเปรียบคู่แข่ง เพราะคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ที่ทีโอทีให้บริการมีมาตรฐานสากล และเป็นคลื่นที่มีความเสถียรสามารถรับฟังข้อมูลด้วยความเร็วสูง

"ผมไม่คิดว่าเราเสียเปรียบ แม้เอไอเอส ดีแทค ทรู จะเปิดบริการ 3จีไปก่อน เพราะเรามีคลื่นที่ดีกว่าเป็นมาตรฐาน และถ้าจะให้บริการจริงๆ เราก็มีเน็ตเวิร์คที่ครอบคลุมมากกว่าด้วย"

สำหรับ นโยบายของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ที่ต้องการให้มีบริการอินเทอร์เน็นความเร็วสูงผ่านบริการไว-ไฟฟรีในสถานที่ ราชการ สถานศึกษา และพื้นที่สาธารณะนั้น เขา กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดทำแผนการดำเนินงานอยู่ในใจแล้ว กำลังหารือกับไอซีที โดยทีโอทีเองแสดงความพร้อม และให้การสนับสนุนนโยบายทุกอย่างของไอซีที และรัฐบาลอย่างเต็มที่ โดยในเดือนต.ค.นี้ จะได้เห็นบริการไว-ไฟฟรีในจุดสำคัญๆ

นายอานนท์ ยังได้กล่าวถึง การคัดเลือกคณะกรรมกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ที่วุฒิสภาโหวตผ่านได้รายชื่อกรรมการกสทช.ครบทั้ง 11 คนแล้วว่า ทีโอทีต้องมีการศึกษาแผนธุรกิจรองรับหลังเดือน ธ.ค.ปี 56 รายได้จากสัญญาสัมปทานต้องนำส่งเข้ากระทรวงการคลังทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษา 4 ปัจจัยที่จะทำให้บริษัทมีรายได้ที่แข็งแกร่งขึ้น ได้แก่ 1.การมีพันธมิตรทางธุรกิจ 2.ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบมีสาย 3.ธุรกิจอินเทอร์เน็ตไร้สาย (ไว-ไฟ) และ 4.ธุรกิจการให้บริการ3จี ซึ่งแผนทั้งหมดนี้จะสรุปภายในปีหน้า

ปัจจุบันทีโอที มี รายได้จากบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (มหาชน) หรือเอไอเอส ที่นำส่งเป็นสัมปทานอยู่ 40% หรือคิดเป็นเงิน 27,000 ล้านบาท แต่ในปีต้นปี 57 จะต้องนำส่งรายได้ส่วนนี้เข้ารัฐบาล ดังนั้น ทีโอทีต้องเร่งหารายได้ทดแทน แต่ขณะนี้ ยังไม่สามารถจะสรุปว่า จะใช้แผนไหน ต้องใช้เวลาศึกษาโดยคาดว่า ปี 55 จะสรุปแผนที่ชัดเจนได้