"กูเกิล" เผยคนไทย 8 ใน 10 ค้นข้อมูลสินค้าก่อนซื้อ ขยับเปิดตัวแคมเปญ "ธุรกิจไทย Go On line" ดัน "เอสเอ็มอี" ไทยเพิ่มโอกาสธุรกิจผ่านโลกไซเบอร์ปูทางบุก "อีคอมเมิร์ซ" ตั้งเป้าภายใน 1 ปี ดึง 5 หมื่น ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการ


นายจูเลียน เพอร์ชูด กรรมการผู้จัดการ กูเกิล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวโครงการธุรกิจไทย Go Online ในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะเป็นตลาดที่มี ความสำคัญ โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็ก ทรอนิกส์ไทย, ดอตอะไร และเว็บบิซ เพื่อกระตุ้นให้ธุรกิจในประเทศไทยเข้าสู่โลกออนไลน์ด้วยการเข้ามาใช้โปรแกรม สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปของเว็บบิซที่ทำเว็บไซต์ได้รวดเร็ว ง่าย และฟรี พร้อมเครือข่ายสนับสนุนระยะยาวที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

ผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับชื่อเว็บไซต์ .in.th หรือ .co.th ฟรีในปีแรก โดยกูเกิลจะสนับสนุนการนำไปปรากฏบนกูเกิลแมป และให้เครดิตโฆษณาผ่านกูเกิลแอดเวิรดส์มูลค่า 3,000 บาท ทั้งมีบริการให้คำปรึกษาผ่านเว็บคลินิกตามหัวเมืองใหญ่ และบริการสนับสนุนจากศูนย์ประสานงานโครงการ 55 แห่งในเครือมหาวิทยาลัยทั่วประเทศด้วย

"เรามองว่าการที่ธุรกิจในไทย เข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้นเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ผู้บริโภคก็สามารถเสิร์ชหาข้อมูลสินค้าได้ง่ายขึ้น ฝั่งธุรกิจก็มีช่องทางเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เราตั้งเป้าว่าจะมีผู้ประกอบการในไทยเข้าสู่โลกออนไลน์ผ่านโครงการนี้ 50,000 ราย ภายใน 12 เดือนข้างหน้า"

โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่ง ของจุดประสงค์ที่ต้องการผลักดันให้มีเนื้อหาภาษาไทยบนเว็บไซต์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงคนไทยเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น และเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้ามาใช้กูเกิลแอดเวิร์ดส์มากขึ้นตามไปด้วย

นาย จูเลียนเสริมว่า ก่อนหน้านี้กูเกิลได้เปิดตัวแคมเปญลักษณะเดียวกันในหลายประเทศ และครั้งแรกที่สหราชอาณาจักร ขยายไปประเทศอื่นในแถบยุโรป ตั้งแต่สเปน, ฮังการี, โปแลนด์ รวมถึงในออสเตรเลีย และบราซิล จนมาถึงประเทศในแถบเอเชียมีไทยเป็นแห่งแรก ซึ่งตนมองว่าการที่แคมเปญนี้เปิดตัวอย่างต่อเนื่องในประเทศต่าง ๆ คือสัญญาณของความสำเร็จในการทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีเข้า สู่โลกออนไลน์มากขึ้น

จากการสำรวจของกูเกิลพบว่า ลูกค้าชาวไทย 8 ใน 10 คนค้นหาข้อมูลของสินค้า บริการ หรือธุรกิจระดับท้องถิ่นก่อนตัดสินใจซื้อ ขณะที่ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่มีกว่า 3 ล้านราย มีเพียงแค่ 5% เท่านั้นที่นำธุรกิจเข้าสู่โลกออนไลน์ เนื่องจากส่วนใหญ่คิดว่าสินค้าของตนเองไม่เหมาะกับการขายออนไลน์ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเปลี่ยนทัศนคติให้ผู้ประกอบการรู้ว่าสินค้าอะไรก็ขาย ผ่านสื่อออนไลน์ได้

สำหรับโปรแกรมสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปดังกล่าว เป็นแค่การนำข้อมูล, ภาพ และช่องทางการติดต่อของร้าน นั้น ๆ ไปปรากฏให้เห็นบนหน้าเว็บไซต์เท่านั้นยังไม่รองรับการชำระเงินในลักษณะอีคอม เมิร์ซแต่อย่างใด

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในหลากหลายมิติ เพื่อให้แข่งขันได้ในระดับสากลโดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไอทีหากผลักดัน ให้ผู้ประกอบการ 5 หมื่นรายเข้าสู่ระบบออนไลน์ได้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญทั้งต่อผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ด้วย