ประธานและซีอีโอโนเกีย ประกาศจะยังคงพัฒนาระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนไปจนถึงปี ค.ศ. 2016 ภายใน 12 เดือนนับจากนี้สมาร์ทโฟนใหม่ทุกรุ่นจะลงซิมเบี้ยนแอนนา ส่วนวินโดว์สโฟนของโนเกียจะเห็นภายในปีนี้ 1 รุ่น

นายสตีเฟ่น อีลอป ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานโนเกีย กล่าวถึงกลยุทธ์ของโนเกียในภูมิภาคเอเชีย ภายในงานโนเกีย คอนเน็คชั่น 2011 ประเทศสิงคโปร์ ว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมาโนเกียได้กำหนดกลยุทธ์ 3 แนวทาง คือ การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร นำวินโดว์สโฟนมาเป็นระบบปฏิบัติการหลักและหาทางให้คนมากกว่า 1,000 ล้านคน ได้ใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ

ประธานโนเกีย ยืนยันว่า จะยังคงพัฒนาระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนต่อไปจนถึงปี ค.ศ. 2016 นับจากนี้ไปอีก 12 เดือน จะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่รองรับซิมเบี้ยนแอนนาประมาณ 10 รุ่น โดยโนเกีย เอ็น 8 ซี 7 และอี 7 ที่วางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม จะเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ทั้งหมด ส่วนลูกค้าเดิมจะสามารถอัพเกรดจากซิมเบี้ยนเป็นซิมเบี้ยนแอนนาได้ตั้งแต่ เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

“ยังมีประชากรโลกอีกกว่า 1.5 พันล้าน ที่ยังเข้าไม่ถึงบริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือ โนเกียได้กำหนดนโยบายชัดเจนเพื่อให้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ กลุ่มเป้าหมายหลักคือ อินโดนีเซีย จีน บราซิลและอินเดีย”

ภายในงานดังกล่าว ประธานโนเกียและคณะผู้บริหารได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่เป็นครั้งแรก ของโลก คือ โนเกีย เอ็น 9 ที่มีจุดเด่นเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบเป็นชิ้นเดียวทั้งตัวเครื่อง เป็นระบบสัมผัสทั้งตัวเครื่อง วัสดุโพลีคาร์บอเนตช่วยให้การรับส่งสัญญาณมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ทำงานบนระบบปฏิบัติการมีโก นอกจากนี้ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือดูอัลซิม หรือมือถือสองซิม ซี 2-02 และซี 2-03 จุดเด่นที่สามารถใช้งานได้พร้อมกันสองซิม ใส่หรือถอดซิมได้ทันทีโดยไม่ต้องปิดเครื่อง เพิ่มหน่วยความจำได้ถึง 16 กิกะไบต์ ทั้งหมดจะวางจำหน่ายภายในปีนี้

สำหรับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์สโฟน จะเปิดตัว 1 รุ่น ภายในปีนี้เช่นเดียวกัน.