เปิดผลสำรวจ "จีเอฟเค" แอนดรอยด์ครองส่วนแบ่งตลาดสูงในกลุ่มแทบเล็ต"โอเอส แอนดรอยด์ สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ดีเยี่ยมในกลุ่มของแทบเล็ต ตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 มีผู้ผลิตเพิ่มขึ้น ที่เน้นพัฒนาแทบเล็ตบนโอเอสแอนดรอยด์ ขณะที่ผู้ใช้งานก็เริ่มใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นที่หลากหลายของแอนดรอยด์ได้มากขึ้น"

ทันทีที่ "แทบเล็ต" เปิดตัวสู่ตลาดโลก ได้สร้างความสั่นสะเทือน ระคนน่าตื่นเต้นไปทั่ววงการอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ทั้งในฝั่งผู้บริโภค และผู้ผลิต และเมื่อต้นตำหรับแทบเล็ตอย่าง "ไอแพด" ของพ่อมดไอทีอย่าง "สตีฟ จ็อบส์" แห่งอาณาจักรแอ๊ปเปิ้ลเปิดตัวอย่างฮือฮา สร้างปรากฏการณ์ยอดขายถล่มทลาย บรรดาผู้บริโภคต่างวิ่งหาคว้ามาเป็นเจ้าของ ทำให้ผู้ผลิตหลายค่าย หลายบริษัทต่างฉกฉวยโอกาสทอง เร่งพัฒนาแทบเล็ตรุ่นใหม่ พร้อมฟังก์ชั่นที่มากขึ้น และใช้งานที่ดีขึ้นออกมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

จากผลสำรวจของบริษัท จีเอฟเค เอเชีย ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายนปีนี้ แทบเล็ตมากกว่า 261,000 เครื่อง ที่ประกอบไปด้วยแบรนด์หลากหลายนับสิบแบรนด์ ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงใน 7 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการบนแทบเล็ต ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงมาก เป็นโอเอสที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้งานอย่างล้นหลาม เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกือบครึ่งของแทบเล็ตทั้ง หมด หรือประมาณ 46% ที่ผู้บริโภคซื้อไปนั้นเป็นโอเอสแอนดรอยด์แทบทั้งสิ้น เทียบกับ 5 เดือนก่อนหน้านี้ ช่วงเดือนพฤศจิกายนสัดส่วนตลาดของโอเอส แอนดรอยด์มีเพียงแค่ 13% เท่านั้น

"โอเอส แอนดรอยด์ สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ดีเยี่ยมในกลุ่มของแทบเล็ต ตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 มีผู้ผลิตเพิ่มขึ้น ที่เน้นพัฒนาแทบเล็ตบน โอเอสแอนดรอยด์ ขณะที่ผู้ใช้งานก็เริ่มใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นที่หลากหลายของแอนดรอยด์ได้ มากขึ้น" นายเจอรัลด์ แทน ผู้บริหารจีเอฟเคในเอเชีย กล่าว

ความต้องการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดของผู้บริโภค ความต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อเชื่อมต่อเว็บแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้เครือข่าย 3จี และ 4จี ทำให้แทบเล็ตกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม มีตัวเลข ระบุว่า เครือข่าย 3จี และ 4จี เป็นปัจจัยสำคัญต่อยอดขายแทบเล็ต โดยกว่า 79% ของยอดขายแทบเล็ต มาจากการแพร่หลายของเครือข่าย 3จี และ 4จี

"เมื่อเร็วๆ นี้ เราได้รับข้อมูลว่า แทบเล็ตรุ่น ใหม่ๆ ที่กำลังออกมา จะมีฟังก์ชั่นใหม่เพิ่มมากขึ้น เช่น กล้องหน้า และกล้องหลัง ที่จะกลายเป็นฟังก์ชั่นมาตรฐานเหมือนกับช่องเสียบยูเอสบี ฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมากมาย แต่ราคาโดยเฉลี่ยของแทบเล็ตกลับมีแนวโน้มลดลง ยิ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแทบเล็ต จับจองเป็นเจ้าของได้มากขึ้น" นายแทน กล่าว

จีเอฟเค โชว์ตัวเลข ราคาเฉลี่ยของแทบเล็ตที่ ลดลงเล็กน้อยในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขณะนี้ อยู่ที่ 600 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือนเมษายน ลดลง 23% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้แทบเล็ตที่ขายในราคาสูงมากสุด คือที่อินโดนีเซีย

"แทบเล็ต ที่มีรูปลักษณ์บาง เบา โฉบเฉี่ยว และมีสไตล์ จะยังคงสร้างความตื่นตา ตื่นใจให้กับผู้บริโภคต่อไปได้อีก เราเชื่อว่า บรรดาผู้ผลิตยังคงเร่งพัฒนาแทบเล็ตรุ่น ใหม่ๆ ออกมา เพื่อกระตุ้นตลาด ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลายอย่างน่าสนใจ และนำเสนอราคาที่ผู้บริโภคสามารถยอมรับได้" ผู้บริหารจีเอฟเค กล่าว