ซีเอสล็อกซอินโฟคุยธุรกิจยังไปได้สวย รายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจอินเทอร์เน็ต และธุรกิจคอนเทนต์ พร้อมปรับโฉมสมุดหน้าเหลืองให้ดูทันสมัยขึ้น รวมทั้งเน้นธุรกิจออนไลน์เพิ่ม ระบุปีหน้าสื่อออนไลน์จะมีบทบาทสูง

นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสสองมีรายได้อยู่ที่ 693 ล้านบาทดีกว่ารายได้ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยมีกำไรอยู่ที่ 108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เป็นผลมาจากรายได้หลักจากธุรกิจอินเทอร์เน็ตประมาณ 60% ของรายได้รวม และธุรกิจวอยซ์และโมบายคอนเทนต์

'บอร์ดของบริษัทจึงมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2554 จำนวน 27 สตางค์ต่อหุ้น หรือประมาณ 80% ของกำไรสุทธิ'

รายได้ในส่วนอินเทอร์เน็ตที่โตขึ้นมาจากการเติบโตจากยอดขายในส่วนของ ดาตาเซ็นเตอร์ และบริการด้านไอทีโซลูชันที่ยังเติบโตได้ถึง 4% เข้ามาชดเชยรายได้ที่ลดลงในกลุ่มสินค้าด้านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและ บริการอินเทอร์เน็ตตามบ้านที่มีการแข่งขันด้านราคารุนแรง

ส่วนแนวทางในครึ่งปีหลังนั้นยังคงเน้นการทำตลาดไอดีซีและไอทีโซลูชัน เป็นหลัก โดยยังคงเน้นการทำตลาดลูกค้าในกลุ่มบริษัทที่มีรายได้ 100 ล้านบาทขึ้นไปคิดเป็นสัดส่วนลูกค้าของบริษัท 90% แต่คงจะต้องจับตามองปัญหาทางด้านเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาและยุโรปว่าจะมีผล กระทบต่อธุรกิจทางด้านส่งออกและท่องเที่ยวมากน้อยเพียงใด

นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเลอินโฟ มีเดีย กล่าวว่า แนวทางธุรกิจในส่วนของสมุดโทรศัพท์หน้าเหลืองนั้นยอดขายโฆษณาในช่วงครึ่งปี แรกยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แนวโน้มในครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นภายหลังจากที่นำสื่อออนไลน์เข้ามาจัดทำเป็น แพกเกจ รวมถึงการจัดรูปแบบหน้าโฆษณาในสมุดหน้าเหลืองใหม่ที่ทำให้ง่ายต่อการค้นหา

ทั้งนี้ ลูกค้ามีความสนใจที่จะซื้อสื่อออนไลน์ประมาณ 15-20% ของลูกค้าทั้งหมดที่มีประมาณ 250,000 ราย ทำให้เชื่อว่าสิ้นปีนี้น่าจะมียอดขายจากสื่อโฆษณาประมาณ 7% ของรายได้รวม ซึ่งถือว่าได้ผลตอบรับดีและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

นายสรรค์ชัยกล่าวว่า ประมาณปลายปีบริษัทจะเปิดให้บริการอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการ คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่ถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่มีการใช้งานอีคอมเมิร์ ซยังไม่มาก โดยจะมีรูปแบบแตกต่างจากอีคอมเมิร์ซของกูเกิลตรงที่ว่า ผู้ประกอบการไม่ต้องทำอะไรเลยทางบริษัทจัดทำเป็นโซลูชันให้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำเว็บไซต์ ระบบชำระเงินออนไลน์ ระบบการติดตามการขนส่ง แม้กระทั่งระบบการชำระเงินให้กับซัปพลายเออร์ โดยจะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการทำทรานเซกชันประมาณ 12% และค่าบริการแรกเข้าไม่มากนัก

'ปีนี้น่าจะเห็นคอนเทนต์บนออนไลน์มากขึ้น จะเห็นแอปบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในทุกแพลตฟอร์มให้ใช้งานกันมากขึ้น เวลานี้มีการเปิดตัวแอปฯบนมือถือให้ดาวน์โหลดแล้ว 3 แอป และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีออกมาประมาณ 10 แอป ซึ่งเชื่อว่าปีหน้าคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับออนไลน์จะมีบทบาทในการสร้างรายได้ ให้บริษัทมากขึ้น'