โกดัก กับกลยุทธ์ขยายตราสินค้า (Brand Extention) ปั้นแบรนด์ใหม่ “Kodak Picture Kiosk” รับกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์กบูม มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และวัยทำงานตอนต้น ชูจุดเด่นพรินต์รูปจากเฟซบุ๊ก Hi5 อีเมล แบบ personalization ลูกค้าสามารถตกแต่งและพรินต์ภาพได้ด้วยตนเองภายในเวลา 11 วินาที พร้อมเปิดแฟรนไชส์ไซส์เล็กในรูปแบบคีออส คาดดันรายได้รวมปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30%

หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แบรนด์โกดัก ถือเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดฟิล์มเมืองไทย ที่ถูกปรากฏการณ์กล้องดิจิตอลเข้ามาทดแทนผลิตภัณฑ์ฟิล์มจนหมดสิ้นไปจากตลาด (Replacement Product) ทำให้โกดักมีการปรับตัวมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤตยังมีโอกาส ซึ่งโกดักมีจุดแข็งสำคัญคือ การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมพิมพ์ภาพ (Photo Printing) ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสบช่องโอกาสทางการตลาดร้านถ่ายภาพ ล้าง-อัดภาพ สุ่มทำตลาดทางตรงกับกลุ่มดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีดีลเลอร์มากถึง 400 รายทั่วประเทศ

“โกดัก จึงยืนหยัดมาได้ถึงปัจจุบัน กับภาพลักษณ์ใหม่ ผู้นำธุรกิจพิมพ์ภาพพิมพ์ ภายใต้ชื่อ Kodak Express ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ ที่โกดักลงมาจับตลาดโซเชียลมีเดีย รุกเข้าสู่กลุ่มคอนซูเมอร์อย่างจริงจัง พร้อมวางยุทธศาสตร์ทางการตลาดอย่างชัดเจน โดยเน้นกิจกรรมทางการตลาดโรดโชว์ สร้างประสบการณ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายทางตรง ตามสถาบันการศึกษา ออฟฟิศ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ในรูปแบบแฟรนไชส์ไซส์เล็กระดับคีออส” สมศักดิ์ เจือสุคนธ์ทิพย์ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจคีออส บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

นโยบายทางการตลาดปีนี้ ในการบุกเข้าสู่ตลาดคอนซูเมอร์ จะเน้นกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานตอนต้น และผู้มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี โดยสามารถเข้าไปใช้บริการในโกดัก เอ็กซ์เพรส และพิมพ์ภาพได้ด้วยตนเอง ตกแต่ง เพิ่มแสง ทำได้ตามความพึงพอใจของลูกค้าด้วยระยะเวลาเพียง 11 วินาทีต่อ 1 รูป และยังสามารถตกแต่งภาพด้วยตัวเองได้อย่างง่ายๆ อาทิ การใส่กรอบ พิมพ์ข้อความ เพิ่มกราฟิก สร้างสรรค์เป็นปฏิทิน โปสการ์ด บัตรอวยพร ฯลฯ

ทั้งนี้ เทคโนโลยีของโกดักยังรองรับเทรนด์การพิมพ์จากโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊ก แทนฮาร์ดไดรฟ์ หรือซีดีทั่วไป และเครื่องพิมพ์ระบบเอเพ็กซ์ ในราคา 2.59 แสนบาท เพื่อรองรับงานพิมพ์จำนวนที่มากขึ้นมาอีก แต่ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นถูกลง ตอบโจทย์การพิมพ์รูปจำนวนไม่มาก ตามเทรนด์ผู้บริโภคปัจจุบันที่ไม่นิยมอัดภาพครั้งละมากๆ เหมือนในอดีต

ปัจจุบัน คนไทยนิยมเล่นเฟซบุ๊กกว่า 10 ล้านคน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมยอดนิยมอย่างหนึ่ง คือการแชร์ภาพถ่าย เพื่อเก็บภาพความทรงจำไว้ ทางโกดักจึงได้คิดค้นนวัตกรรมการพรินต์ภาพจากเฟซบุ๊กขึ้นเพื่อตอบสนอง ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เป็นซอฟต์แวร์ที่พิมพ์รูปผ่านสังคมออนไลน์

นอกจากนี้ โกดัก ยังมุ่งขยายแฟรนไชส์ โกดักไซส์เล็ก ในรูปแบบคีออสโทนสีเหลืองภายใต้แบรนด์ Kodak Picture Kiosk โดยจะเน้นพื้นที่ขนาดเล็กในร้านกาแฟ ร้านหนังสือ มหาวิทยาลัย เป็นต้น เพื่อจะเสนอเป็นมุมเล็กสร้างทางเลือกให้ธุรกิจเอสเอ็มอี และผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์จะเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะขยายสาขาแฟรนไชส์ได้ 120 สาขาภายในสิ้นปีนี้

ด้านสถานการณ์การแข่งขันในตลาดโฟโต้ พรินติ้ง สมศักดิ์ ให้ความเห็นว่า จะเป็นกลุ่มร้านรับล้าง-อัดรูปทั่วไป ที่ให้บริการสำหรับลูกค้าอัดรูปในปริมาณมากๆ และใช้ราคาเป็นตัวหลักในการทำตลาด ซึ่งโกดักคงไม่ได้มองเป็นคู่แข่งขันโดยตรง เพราะระดับราคา และเครื่องพิมพ์ภาพกับนวัตกรรมใหม่ ตอบรับกลุ่มเป้าหมายคนละตลาดกัน

อย่างไรก็ดี โกดักยังเตรียมเปิดตัวเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น โดยเพิ่มลูกเล่น เช่น การพิมพ์ 2 หน้า และเพิ่มเครื่องพิมพ์รุ่นเล็กให้สามารถลงทุนได้ง่ายขึ้น คาดว่าจะดันให้เป้ายอดขายโต 30% ในปีนี้

แม้ฟิล์มหายไป แต่ธุรกิจการพิมพ์ยังอยู่ ซึ่งโกดักกำลังมองเป็นตลาดใหม่ที่จะเข้ามาชดเชยรายได้นอกเหนือจากการ ขายกระดาษน้ำยาที่ขายให้มินิ แล็บที่ยังทำรายได้ดีอยู่ และธุรกิจกล้องดิจิตอล และการขายแฟรนไชส์เครื่องพิมพ์ภาพด้วยนวัตกรรมใหม่ จะเป็นตัวหลักในการบุกตลาดเมืองไทย