User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » มรสุม "แบล็คเบอร์รี่-เอเซอร์" กำไรหด-ยอดขายตก-จ่อเลย์ออฟพนง.
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

มรสุม "แบล็คเบอร์รี่-เอเซอร์" กำไรหด-ยอดขายตก-จ่อเลย์ออฟพนง.

โจทย์สำคัญในธุรกิจไอที คือการปรับตัวให้รับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หากไม่สามารถทำได้ทัน อาจจะกลายเป็น "ผู้ตาม" ได้ในชั่วข้ามคืน เช่นเดียวกับบิ๊กเพลเยอร์ในโลกไอที 2 รายนี้

เอเอฟพีรายงานว่า บริษัท รีเสิร์ช อินโมชั่น ผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี่ กำลังเผชิญกับภาวะการชะลอตัวของรายได้ โดย ผลประกอบการไตรมาสแรก ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา มียอดขายสมาร์ทโฟน 13.2 ล้านเครื่อง ลดลงจาก 14.9 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ "เพลย์บุ๊ก" แท็บเลตของค่ายริม มียอดขายตั้งแต่เปิดตัวเดือนเมษายน จำนวน 5 แสนเครื่อง

นอกจากนี้ กำไรประจำไตรมาสแรกของริมลดลง 9.6% มาอยู่ที่ 695 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้รวม 4.9 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีก่อนมีเงินเข้ากระเป๋า 4.24 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้

ขณะเดียวกัน ริมยังได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2 ลงมาอยู่ที่ 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่ ตั้งเป้าไว้ 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ริมยังประกาศเตรียมแผนปรับลดพนักงานในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรีดไขมันในองค์กร แต่ยังไม่เปิดเผยว่ามีจำนวนเท่าไหร่

"จิม บาลซิลไลน์" ซีอีโอร่วมของบริษัท ริม กล่าวในแถลงการณ์ว่า ปีงบประมาณ 2012 ถือเป็นการเริ่มต้นความท้าทาย จากภาวะถดถอยที่เรามองเห็นในไตรมาส 1 ยังคงต่อเนื่องถึงไตรมาส 2 รวมถึงความล่าช้าของการแนะนำสินค้าใหม่ในการส่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ เข้าสู่ตลาดที่ชะลอออกไปจนถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคมนั้น เป็นผลให้บริษัทต้องปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอร่วมของริมระบุว่า ธุรกิจของริมยังคงมีกำไร และภาพรวมที่แข็งแรงด้วยการเติบโตของส่วนแบ่งตลาดจากหลาย ๆ แห่งทั่วโลก ตนเชื่อว่าการออกสินค้าใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ากับการปรับโครงสร้างค่า ใช้จ่ายของบริษัท จะช่วยให้ริมสามารถมีกำไรเพิ่มขึ้นหลังปี 2012

"เรา ยังมีธุรกิจที่แข็งแกร่ง เรามีการอัปเกรดแพลตฟอร์มครั้งใหญ่ และกำลังก้าวผ่านช่วงเปลี่ยนถ่ายนี้ ซึ่งเชื่อว่าเรากำลังไปถึงจุดสิ้นสุดของการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากนี้"

ผล ประกอบการครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณความยากลำบากของค่ายริมที่เกิดขึ้น เนื่องจากริมเผชิญกับการแข่งขันที่ร้อนแรงกับค่ายแอปเปิล และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ต่างเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนของริม ที่ครั้งหนึ่งเคยครองความยิ่งใหญ่ในตลาด หากดูจากรายงานของการ์ดเนอร์เมื่อไตรมาส 1 ที่ผ่านมาระบุว่า ส่วนแบ่งการตลาดของริมในตลาดอเมริกาลดเหลือเพียง 16.5% จาก 41.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา

แม้ว่าริมยังไม่เปิด เผยแบล็คเบอร์รี่โมเดลใหม่ที่ใกล้จะเปิดตัว แต่ทุกคนหวังว่าอุปกรณ์รุ่นใหม่บนแพลตฟอร์ม QNX น่าจะออกสู่ตลาดได้ในต้นปีหน้า พร้อมกับการปรับโฉมสินค้าให้มีความทันสมัยและดูเหมาะกับหนุ่มสาวมากขึ้น

นัก สังเกตการณ์หลายรายต่างกังวลว่า ริมกำลังเดินตามรอย "โนเกีย"ผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ สัญชาติฟินแลนด์ ซึ่งออกมาปรับลดตัวเลขรายได้ในไตรมาส 2 เช่นกัน และกำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งอย่างมาก แต่กระนั้น แม้ว่าริมมีรายได้ที่เติบโตในตลาดต่างประเทศประมาณ 67% แต่ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์แบล็คเบอร์รี่รุ่น โลว์เอนด์ หรือรุ่น "เคิร์ฟ" ซึ่งมีมาร์จิ้นน้อย เพราะต้องแข่งขันกับกูเกิลโฟน ราคาประหยัด ที่วางจำหน่ายอยู่ในโซนละตินอเมริกา เอเชีย และยุโรป

"ปีเตอร์ มิเสก" นักวิเคราะห์จาก Jefferies & Company กล่าวว่า "คนไม่รอคอยแล้ว และพวกเขากำลังไปหาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ และเรามองว่า การเลย์ออฟอย่างมีนัยสำคัญของริม ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดี"

ขณะ ที่ยักษ์ใหญ่ของวงการไอทีอีกรายที่กำลังเผชิญมรสุมวิกฤติเช่นกัน นั่นคือ "เอเซอร์" ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เบอร์ 2 ของโลกสัญชาติไต้หวัน

โดยล่า สุดเอเซอร์ได้ประกาศแผนปรับลดพนักงานในยุโรป 300 ตำแหน่งภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมกับการตัดหนี้สูญประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการเคลียร์สต๊อกสินค้าในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา ท่ามกลางการฟื้นของสภาพเศรษฐกิจที่ล่าช้า

นอกจากนี้ เอเซอร์ยังปรับลดคาดการณ์ยอดขายแท็บเลตในปี 2011 เหลือเพียง 2.5-3 ล้านเครื่อง จากเมื่อต้นปีคาดการณ์ยอดขาย 5-7 ล้านเครื่อง เนื่องจากเอเซอร์กำลังเผชิญการดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อแข่งขันในสมรภูมิแท็บเลตที่มีคู่แข็งกระดูกแข็งอย่าง แอปเปิลและซัมซุง

"เจที หวัง" ประธานของเอเซอร์กล่าวว่า ยอดการจัดส่งโน้ตบุ๊กของเอเซอร์ปีนี้อาจจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมา หรือดีที่สุดคือทรงตัว ก่อนที่จะฟื้นตัวช่วงไตรมาส 4 เนื่องจากบริษัทกำลังโฟกัสเรื่องการลดสินค้าคงคลังเป็นหลัก จากปลายปีที่ผ่านมา เอเซอร์เคยประเมินว่ายอดขายในปี 2011จะเติบโต 20-25%

สอด คล้องกับรายงานจากบริษัทวิจัยหลายแห่งต่างมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในตลาดน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยไอดีซีประเมินว่า ปี 2011 ตลาด พีซีจะเติบโต 4.2% ลดลงจากที่เคย คาดว่าจะเติบโต 7.1% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และการแข่งขันของอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ เช่นเดียวกับบริษัทวิจัยการ์ดเนอร์ประเมินว่า ยอดขายพีซี ทั่วโลกเติบโต 9.3% จากเดิมที่คาดการณ์เติบโต 10.5% เนื่องจากคอนซูเมอร์ควบคุมการใช้จ่าย ประกอบกับความ ไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา "เจียนฟรังโก้ เลนซี่" ซีอีโอเอเซอร์ ประกาศลาออก โดยอ้างเหตุผลว่า เพราะมุมมองที่แตกต่างเรื่องอนาคตของบริษัท และการเผชิญกับความต้องการซื้อพีซีลดลง จนทำให้เจที หวัง ต้องควบเก้าอี้ซีอีโอคนปัจจุบันแทน
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.