กลุ่มสามารถยื่นเอกสารตอบกลับทีโอที สนใจทำตลาดเป็นเอ็มวีเอ็นโอต่อ อ้อนขอเป็นรายใหญ่ได้สิทธิทำตลาดครองความจุ 40%ลั่นตอบหนังสือชี้ชวนมีข้อเสนอสุดเร้าใจ ดีกว่าเอกชนทุกรายในตลาด เตรียมพัฒนา ระบบหลังบ้าน-ซีอาร์เอ็มเต็มรูปแบบ รองรับการขยายตัว 3 จี ทีโอที มั่นใจปีนี้ ยอดลูกค้ามากกว่า 5 แสนราย เมินคู่แข่งเอไอเอสเข้ามาแย่งตลาด เผยทีโอทีต้องคิดให้รอบคอบ เพราะผู้ประกอบการมือถือที่มีไลเซ่น อาจโอนถ่ายลูกค้า 3 จี ไปสู่ใบอนุญาตใหม่หลังจาก กสทช.เปิดประมูลในปีหน้า

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย ผู้ทำตลาดขายต่อบริการบนโครงการข่ายเสมือน (เอ็มวีเอ็นโอ) ให้แก่ บมจ.ทีโอที ภายใต้แบรนด์ "ไอ-โมบาย 3 จี เอ็กซ์" ได้ตอบรับในหนังสือชี้ชวนการลงทุน (เทอม ชีท) ให้เข้าร่วมเป็นเอ็มวีเอ็นโอใหม่ โครงการ 3 จี ทีโอทีที่ขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศจำนวน 5,320 สถานีฐานแล้ว โดยไอ-โมบาย ยืนยันที่จะเป็นพันธมิตรหลักของทีโอทีตามเดิม และยังได้ยื่นข้อเสนอผลตอบแทนแก่ทีโอทีเกี่ยวกับการเงื่อนไขการทำตลาดที่มี โปรโมชั่น และข้อเสนอต่างๆ กลับไปยังทีโอทีแล้วด้วย

เสนอเงื่อนไขดีสุด

เขามั่นใจว่า จำนวนผู้ประกอบการที่ต้องการทำเอ็มวีเอ็นโอกับ ทีโอที จะไม่มีรายใดเสนอผลตอบแทน และโปรโมชั่นช่วยทำตลาดได้ดีเท่าไอ-โมบายแน่นอน เนื่องจาก การทำตลาดช่วงที่ผ่านมา ไอ-โมบายถือเป็นผู้ทำตลาดเอ็มวีเอ็นโอรายเดียว ที่มียอดผู้ใช้งานมากกว่า 2 แสนราย จากจำนวนยอดลูกค้าทั้งหมด 3 แสนราย คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 85%

"เรายินดีที่จะทำเอ็มวีเอ็นโอให้แก่ทีโอทีตามเดิม ซึ่งถือเป็นรายได้ใหม่ที่จะเข้ามาต่อยอดธุรกิจให้กลุ่มสามารถทั้งในขาของบริษัท สามารถ เทลคอม และไอ-โมบาย และในครึ่งปีหลังต่อจากนี้ จะนำโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่รองรับ 3 จี เข้ามาทำตลาดไม่ต่ำกว่า 10 รุ่น รวมทั้งโทรศัพท์ 2 ซิม เป็น 2 จีและ 3 จี ซึ่งเป็นการปูทางให้เกิดงานประเภทดาต้ามากขึ้น"

ขอเป็นรายใหญ่กินความจุ 40%

เขา กล่าวว่า การทำตลาดเอ็มวีเอ็นโอให้แก่ทีโอที ภายใต้โครงข่ายใหม่นี้ กลุ่มสามารถขอเป็นผู้ทำตลาดรายใหญ่ ใช้งานความจุโครงข่าย (คาปาซิตี้) 40% ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสตราทิจิก เอ็มวีเอ็นโอ ทำสัญญายอดขาย การจัดจำหน่าย หาลูกค้าแต่ละเดือน ซึ่งมั่นใจว่าศักยภาพของกลุ่มสามารถทำได้แน่นอน และมั่นใจว่าหากโครงข่าย 3 จี สร้างและให้บริการได้เดือน ก.ย.นี้ จะมีลูกค้าเอ็มวีเอ็นโอเพิ่มเป็น 5 แสนราย ทำรายได้ต่อเลขหมายเพิ่มเป็น 250-300 บาทต่อเดือน จากเดิม 200 บาทต่อเดือน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตั้งบริษัท ไอ-โมบาย พลัส เพื่อทำตลาดเอ็มวีเอ็นโอโดยเฉพาะ โดยทำระบบหลังบ้าน (แบ็คออฟฟิศ) และระบบซีอาร์เอ็มด้วย

เตือนทีโอทีนึกถึงระยะยาว

อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ก หรือเอดับบลิวเอ็น บริษัทลูกของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) จะเข้ามาร่วมทำตลาดด้วยก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบ เพราะทีโอทีต้องคำนึงถึงการเป็นพันธมิตรระยะยาว เพราะหากมีประมูลใบอนุญาต 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จากคณะกรรมการกิจการโทรทัศน์ กิจการกระจายเสียง และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ปี 2555 ก็มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ประกอบการจะโอนลูกค้าเอ็มวีเอ็นโอไปยังไลเซ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่ทีโอทีจะต้องพิจารณาถึงผลดีผลเสียในระยะยาว

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทีโอทีวันนี้ (22 มิ.ย.) จะพิจารณาข้อเสนอและแผนการทำตลาดให้บริการ 3 จี เอ็มวีเอ็นโอ หลังจากทีโอทีส่งหนังสือชี้ชวนการลงทุนไปยังผู้ประกอบการ ล่าสุดมีเอกชนตอบรับสนใจทำตลาด 13 ราย และทีโอทีได้พิจารณาบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น 7 ราย