หลังจากขายอุปกรณ์เชื่อมต่อกับโทรทัศน์ “แอปเปิลทีวี (Apple TV)” แล้วไม่รุ่งเท่าที่ควร ล่าสุดมีการวิเคราะห์ว่าแอปเปิลกำลังจะหันมาทำตลาดโทรทัศน์สีความละเอียดสูง หรือ HDTV เสียเอง โดยจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2012 ตอกย้ำข่าวลือก่อนหน้านี้ที่เชื่อว่าแอปเปิลจะนำระบบปฏิบัติการไอโฟนมาติด ตั้งในโทรทัศน์ เพื่อปฏิวัติวงการโทรทัศน์สีที่จะมีมูลค่าตลาดเติบโตเป็น 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 12 เดือนนับจากนี้

Trip Chowdhry นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย Global Equities Research แสดงความเชื่อมั่นว่าแอปเปิลจะเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่อย่างทีวี ความละเอียดสูง (HDTV) ในช่วงปี 2012 โดยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวออนไลน์ Apple Insider ว่าคำพยากรณ์นี้มีมูลจากการร่วมสังเกตการณ์งานประชุมนักพัฒนาหลายครั้งที่แอ ปเปิลจัดขึ้น ทำให้มั่นใจว่าทีวีความละเอียดสูงแบรนด์แอปเปิลนั้นกำลังอยู่ระหว่างการผลิต แน่นอน

นักวิเคราะห์รายนี้ยังอ้างว่า ทีวีความละเอียดสูงของแอปเปิลจะมีลักษณะคล้าย VideoWave เอชดีทีวีขนาด 46 นิ้วแบรนด์ Bose ตัวเครื่องหนาประมาณ 6 นิ้ว ลำโพงฝังในตัว 16 ตัวระบบเสียงรอบทิศทาง โดยระบุว่าทีวีความละเอียดสูงแบรนด์แอปเปิลจะมีความหนาเพียง 1 ใน 3 (ราว 2 นิ้ว) แต่จะมีลำโพงภายใน 16 ตัวเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ Chowdhry ยังคาดว่าแอปเปิลจะออกแบบให้สายไฟในทีวีของแอปเปิลมีน้อยกว่าทีวีความละเอียดสูงต่ออินเทอร์เน็ตใดๆ ในตลาด โดยแม้ VideoWave ของ Bose จะลดจำนวนสายเคเบิลเหลือ 3 เส้นแล้ว คาดว่าทีวีแบรนด์แอปเปิลจะมีเพียง 1 เส้นเท่านั้น

เบื้องต้น Chowdhry เชื่อว่าทีวีแบรนด์แอปเปิลจะแจ้งเกิดในตลาดด้วยขนาด 46 นิ้วเช่นเดียวกับ VideoWave และจะมีขนาดอื่นให้เลือกอีก 2 ขนาด คาดว่าทั้ง 3 ขนาดจะวางจำหน่ายในราคาที่ต่างกัน (VideoWave ของ Bose นั้นวางจำหน่ายในขนาดและราคาเดียวคือ 5,200 เหรียญ หรือประมาณ 1.56 แสนบาท)

หลังจากเปิดตัวเดือนมีนาคม นักวิเคราะห์รายนี้เชื่อว่าแอปเปิลจะนำทีวีมาเป็นประเด็นอภิปรายและระดมความ คิดกับนักพัฒนาในงาน Worldwide Developer’s Conference หรือ WWDC ซึ่งแอปเปิลจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีช่วงกลางปีต่อไป

ความเชื่อว่าแอปเปิลจะผลิตทีวีความละเอียดสูงด้วยตัวเองนั้นถูกจุดประกายมาตั้งแต่ต้นปี โดย Gene Munster นักวิเคราะห์ชื่อดังจากบริษัท Piper Jaffray เคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนมกราคมว่าแอปเปิลอาจเข้าสู่ธุรกิจทีวีอย่างเต็มตัว ในปี 2012 ครั้งนั้นทำให้มีการคาดเดาว่า ทีวีของแอปเปิลจะประกอบด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ที่ภายในติดตั้งกล่องเซต ท็อปบ็อกซ์ Apple TV เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ความสามารถของระบบปฏิบัติการ iOS ไปพร้อมกับการโหลดแอปพลิเคชันมาเล่นบนทีวีของแอปเปิล แต่ยังไม่มีรายละเอียดเท่ากับการวิเคราะห์ครั้งนี้ โดยทุกครั้งไม่มีการขานรับใดๆจากแอปเปิลตามธรรมเนียม

การวิเคราะห์ของ Chowdhry เกิดขึ้นพร้อมกับข่าวความล้มเหลวของตลาด “กูเกิลทีวี (Google TV)” ชุดอุปกรณ์โทรทัศน์ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการของกูเกิลซึ่งประกอบด้วยกล่อง เซ็ตท็อบบ็อกซ์กูเกิลทีวี (วางจำหน่ายในชื่อ Logitech Revue ราคา 300 เหรียญ), Mini Controller รีโมตคอนโทรล์ไร้สายขนาดเท่าเครื่องปาล์ม (130 เหรียญ), อุปกรณ์ทีวีคาเมราหรือชุดกล้องดิจิตอลเพื่อการทำวิดีโอคอนเฟอเรนซิงบนทีวี (150 เหรียญ) และคีย์บอร์ดที่จะถูกพ่วงไปกับ Revue จำหน่ายแยกต่างหากในราคา 100 เหรียญ

ลอจิเทค (Logitech) ผู้ผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วงรายใหญ่ซึ่งรับหน้าที่ผลิตอุปกรณ์กูเกิลทีวีทั้ง 4 นั้น ระบุว่า Revue เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมา (เมษายน-มิถุนายน) ขาดทุนถึง 29.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลให้ซีอีโอคนปัจจุบัน Gerald P. Quindlen ประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที

ลอจิเทคระบุว่า Revue มียอดขายตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาในระดับ “ติดลบ” โดยมีลูกค้าคืนสินค้าที่ซื้อไปแล้วมากกว่าลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปใหม่ ผิดจากคำพยากรณ์ของนักวิเคราะห์ที่เคยคาดว่าเซตท็อปบ็อกซ์กูเกิลทีวีที่ลอจิ เทคเป็นผู้ผลิตจะสามารถทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 5 แสนเครื่องในปี 2010 ซึ่งลอจิเทคเผยว่าบริษัทจะปรับลดราคา Revue จาก 249 เหรียญเหลือ 99 เหรียญในเร็ววันนี้

ยังไม่มีรายงานจากโซนี (Sony) ผู้ผลิตทีวีสำหรับกูเกิลทีวีอีกรายที่เริ่มจำหน่ายสินค้าตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

สำหรับเอชดีทีวีแบรนด์แอปเปิล สื่อมวลชนทั่วโลกเชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถทำรายได้ถล่มทลายได้เช่นเคย เบื้องต้นสมาคมผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคหรือ Consumer Electronics Association (CEA) ได้ประเมินว่า ผู้บริโภคอเมริกันราว 10% จะบอกเลิกบริการเคเบิลทีวีที่ใช้บริการอยู่ เพื่อเปลี่ยนมาใช้บริการทีวีออนไลน์จากแอปเปิล ซึ่งเมื่อนั้นคาดว่าตลาดทีวีอเมริกันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐมาเป็น 1 แสนล้านเหรียญในเวลา 1 ปี