ปมข้อพิพาทระหว่าง "ดีแทคกับทรู&กสท"กรณีอภิดีล 3 จี(HSPA) ทำให้บทบาทของ"กลุ่มทรู"ในสังเวียนธุรกิจโทรคมนาคมเมืองไทย ดูจะห่างไกลจากคำว่าน้องเล็กไปไกลโข ไม่ใช่เพราะพลิกโฉมผลักดันน้องเล็ก"ทรูมูฟ"จากมือวางอันดับ 3 ขึ้นเป็นที่ 1 ได้สำเร็จ

ไม่ใช่แค่จังหวะก้าวไม่ธรรมดาในการปิดดีลซื้อ"ฮัทช์"พร้อมกับรวบรัดร่วม หอลงโรงเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ"กสท"เท่านั้น แต่รวมถึงการตอบโต้เอาคืน"ดีแทค"หลังโดนยื่นฟ้องศาลปกครองระงับบริการ HSPA

เป็นการตอบโต้เอาคืนชนิดที่เรียกว่า"กัดไม่ปล่อย"โดยเดินสายร้องเรียนไป ยังหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่กองปราบ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กสทช. และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ให้ดำเนินการตรวจสอบการผู้ถือหุ้นของต่างชาติใน"ดีแทค" แบบจัดเต็มกันเต็มเหนี่ยว ทำเอาทั้ง"ดีแทค และเทเลนอร์"ปั่นป่วนไม่น้อย

ถ้าให้พูดกันแบบแฟร์ ๆ การเปิดแผล"นอมินี-ดีแทค"ร้องดะทั่วสารทิศทำให้ภาพพจน์ของกลุ่มทรูกลายเป็น บริษัทขี้ฟ้องเล่นไม่เลิกไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม ในระหว่าง"รบ" ก็ยังไม่หยุดเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งไม่ใช่แค่เพิ่มโฟกัส 3G (HSPA) ภายใต้

แบรนด์ "ทรูมูฟเอช"เท่านั้น ยังเร่งสานต่อเติมความแข็งแกร่งให้กลยุทธ์"คอนเวอร์เจนซ์"อย่างต่อเนื่อง "ประชาชาติธุรกิจ"มีโอกาสพูดคุยกับบิ๊กกลุ่มทรู "ศุภชัย เจียรวนนท์"ดังต่อไปนี้

///รัฐบาลเปลี่ยนกังวลบ้างไหม

กังวลแต่ไม่ได้กังวลมาก เพราะคิดว่า ไม่ได้ทำอะไรซี้ซั้ว ทุกอย่างทำตามขั้นตอน ตั้งแต่การเข้าไปเทคโอเวอร์

ฮัทชิสัน มีการเวิร์กเฮ้าท์เรื่องกม.ถูกต้อง

ถ้าการเมืองมากก็เป็นความกังวล แต่เชื่อว่ารัฐบาลใหม่ คงพยายามอยากให้ทุกอย่างดี เกิด และเดินไปข้างหน้า มากกว่าถอยหลัง ผลักทุกอย่างที่เป็นประโยชน์กับประเทศ และผู้บริโภค ขณะที่บริการ 3G มาถึงขึ้นที่ว่า 3-4 โอเปอเรเตอร์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องมี มาดึงโน่นนี่คงไม่ และไม่ใช่ว่าจะดึงได้ กรณีเราก็ทำมา ถูกต้องตามกระบวนการ โดยรวมเชื่อว่ารัฐบาลใหม่น่าจะมาบริหารประเทศในเชิงบวก

///ไม่คิดว่าคู่แข่งบางรายอาจได้เปรียบ

ผมกลับคิดว่าเขาจะเซนซิทีฟกับอินดัสตรีนี้มากๆ ต้องดูแลอินดัสตรีนี้ให้ไปข้างหน้าให้หมด ไม่งั้นก็โดนวิจารณ์ ในภาพรวมทุกคนต้องเดินหน้าภายใต้กรอบที่มีอยู่ คลื่นที่มีอยู่ หมายถึง 3G (คลื่นเดิม)จะไม่พอใช้อย่างรวดเร็ว

ฉะนั้นยังไงการประมูลคลื่นใหม่ก็ควรเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เรากำลังเข้าสู่ยุคของแบนด์วิธเทิร์ส (กระหายการใช้ดาต้า) ทุกคนต้องการสปีด everywhere ไม่ต้องการรอ เมื่อทรัพยากรมี เทคโนโลยีก็มี ทำไมไม่เอามาใช้

///ทรูทำ 3G ก่อนได้เปรียบ

ไม่ได้ทำก่อน เอไอเอส ดีแทคก็กำลังจะทำส.ค.นี้ แต่ในแง่ทดลองเราทำมามากกว่า สร้างไว้เยอะจึงเป็นจุดที่ทำให้มีโมเมนตัม ต้องพูดว่า take lead ไปแล้วในระดับหนึ่ง ทั้งการมีไอโฟนเข้ามาขายก่อน การทดลองบริการ 3G ในพื้นที่กว้างกว่า ถ้าทำต่อเนื่องได้ ก็น่าจะรักษาจังหวะนำไว้ได้ จึงต้องรักษาสปีดในการขยายเอาไว้ให้ได้

///แต่ทรูไม่ได้เมเนจการขยาย

กสทฯเองก็ไม่อยากให้ช้า ถ้าช้าไปรอกสทช. ไม่เกิดประโยชน์กับเขา รายได้จากสัมปทานตามกม.ภายใน 2 ปีข้างหน้าก็จบแล้ว กสทฯจึงหันมาขายส่งอินฟราสตัคเจอร์ เซอร์วิส จึงอยากขยายให้เร็ว อีกหน่อยไม่มีส่วนแบ่งรายได้ก็ต้องคิดกลับว่าจะทรานซิชั่นอย่างไร และถ้าดีแทคไปประมูลคลื่นได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า มีการเคลื่อนย้ายลูกค้าข้ามไปจะเป็นอย่างไร กสทฯต้องหาจุดยึดที่คิดว่าจะเดินอย่างไรให้ยั่งยืน

///ทรูมูฟเอชตั้งเป้าลูกค้าปีนี้เท่าไร


ปีนี้ 1 ล้าน ย้ายมาจากฮัทช์ส่วนหนึ่ง ลูกค้าใหม่ส่วนหนึ่ง ทรูมูฟส่วนหนึ่ง กสทฯมีลูกค้าซีดีเอ็มเอ 2-3 แสน เขาก็อาจได้ลูกค้ามากกว่าแสน อยู่ที่ว่าจะเร่งแค่ไหน

ลูกค้าทรูมูฟเอชตอนนี้มี 5-6 หมื่นราย ฮัทช์เดิมมี 7-8 แสนราย เราเองกะว่า ถ้าทำได้จะย้ายฮัทช์มาทรูมูฟเอชให้หมด ภายในไตรมาส 1 ปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำได้ 80-90%


//จะยกเลิกแพ็คเกจ unlimited


ทั่วโลกไม่มีใครกล้าทำอันลิมิต แต่เรายังแบ่งรับแบ่งสู้ พยายามเทสต์ไปเรื่อยๆ คือคล้ายๆ อันลิมิต แต่ไม่ใช่ ลูกค้าที่ไม่ใช่ฮาร์ดคอร์จริงๆ เราจะมีสถิติเลยว่า ใช้เดือนละเท่าไร สำหรับคนฮาร์ดคอร์ที่โหลดอะไรตลอดเวลา 24 ชั่วโมง กลุ่มนี้ ถ้าพูดถึงต้นทุนกับรายได้ขาดทุน ก็ต้องเก็บเงินเขาตามที่ใช้

//ตรงนั้นไม่ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้แล้ว

ใช่จะเป็นการจ่ายอีกโครงสร้างหนึ่ง จะเริ่มเดือนส.ค. เป็นการจ่ายตามคาแพซิตี้ที่ออร์เดอร์ ไม่ใช่ตามการใช้จริง คือจะออร์เดอร์เป็นปี กสทฯก็สร้างตามออร์เดอร์ ถ้าทำได้ต่ำกว่าที่ออร์เดอร์ไว้ก็ยังต้องจ่าย

//ลูกค้ากลุ่มที่ทดลอง3G จะหมดเมื่อไร

ตราบใดที่เอไอเอสกับดีแทคยังทดลองบริการอยู่ เราก็ยังไม่ได้หยุด จะหยุดจริงๆ เมื่อสัมปทานหมด ตามหลักต้องค่อยๆ เฟดเอ้าท์ ไม่ได้บังคับว่าลูกค้าต้องย้ายเลย คงพยายามสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าข้ามมาใช้ทรูมูฟเอช แต่ไม่มีคัทออฟ เดท วันที่ช้าที่สุดคือวันหมดสัมปทาน ต้องค่อยๆ ไม่อยากทำให้ลูกค้าตื่น ลูกค้าทรูมูฟยังมีเวลา ไม่อยากเร่ง
เดี๋ยวยิ่งสับสน


///ลูกค้า3G ในทรูมูฟมีเท่าไร

ไม่น้อย 4-5 แสนราย ซึ่งต้องสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าย้ายไป คงต้องทยอย ไม่ได้ตั้งทาร์เก็ต

///งบการตลาดทรูมูฟเอชเท่าไร

เตรียมไว้ประมาณ 200 ล้านบาท เพราะเป็นการเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ ซึ่งใหญ่มาก น่าจะแกรนด์โอเพ่นนิ่งในเดือน

ส.ค. แต่คงต้องดูคู่แข่งด้วย


///3Gจะถึงกับเป็นยุคใหม่ของทรูไหม

ก็อาจเปลี่ยน ถ้าทำให้ดี จากการเป็นโอเปอเรเตอร์เบอร์ 3 เรื่องมือถือ เป็นผู้ตาม ก็จะมีส่วนที่เป็นผู้นำ ในเรื่องเดต้า เรื่องไฮสปีด จำนวนลูกค้าจะปรับตัวดีขึ้น ในแง่รายได้ด้วย มีเทคโนโลยีใหม่ เพิ่มมูลค่าใหม่ให้ตลาด โดยรวมรายได้อินดัสตรีจะโตขึ้น คู่แข่งโตด้วย แต่ใครจะโตเร็วกว่า

ภาพของคอนเวอร์เจนซ์จะสมบูรณ์ขึ้น เดิมมีบรอดแบนด์กับเคเบิลทีวี ที่ทำได้ดี และเป็นผู้นำ ไปช่วยอุ้มเบอร์ 3 คอนเวอร์เจนซ์ทำงานไม่เต็มที่ แต่ถ้าทั้ง 3 โปรดักส์ดีหมด คอนเวอร์เจนซก็จะทำได้เต็มที่ การบันเดิล การครอสคอนเท้นท์ระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ การครอสแอพลิเคชั่นทำให้ไร้รอยต่อ คือ ไม่ว่าจะอยู่บนเทคโนโลยีไหน
ก็เติมเต็มไลฟ์สไตล์ได้

มีคอนเท้นท์ที่เอ็นจอยได้ทั้งอินเทอร์เน็ต มือถือ ทีวี มีแอพพลิเคชั่นที่เอ็นจอยได้ระหว่างมือถือ, อินเทอร์เน็ต และทีวีทำให้ลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น มีเรื่องเพย์เม้นท์ ลูกค้าได้ประโยชน์ และเข้าถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการได้โดยไม่จำกัดว่าอยู่บนเทคโนโลยีอะไร

ปลายเดือนก.ย.นี้ ทรูวิชั่นจะปรับเซ็ทท็อปใหม่ เรียกว่า ไฮบริดเซ็ทท็อปออกมาผ่านสายเคเบิลทำให้ใช้ได้ทั้งบรอดแบนด์ และบรอดแคส คือทีวีกดดูกูเกิลทีวีได้ ดูยูทูปไฮเดฟได้ สปีดเร็วมาก และกว้างมาก ดูหนังไฮเดฟบนทีวีผ่านเซ็ตท็อปใหม่ได้เลย

ราคาเซ็ทท็อปประมาณ 2-3 พันบาท ส่วนในแง่แพ็คเกจบริการคงมีตั้งแต่รวมสองอย่าง ราคาต่ำไปสูง แล้วแต่คอนเท้นท์ เช่น แพ็คเกจ 599 บาท มีทั้งเคเบิลทีวี และบรอดแบนด์ ราคานี้คอนเท้นท์อาจน้อย และสปีดต่ำกว่า

///ทุกคนมี3G คลื่นเดิม ตลาดจะเป็นยังไง

ตลาดสมาร์ทโฟนก็จะบูม ในแง่ดาต้าจะใช้มากขึ้นแน่ ไม่ใช่แค่เท่าหรือสองเท่า แต่เป็นร้อยเท่า ถ้าพูดถึง 3G เราเชื่อว่าเราเป็นมาร์เก็ตลีดเดอร์ ต้องพยายามรักษาตรงนี้ไว้ ในแง่พื้นที่การให้บริการ เดือนส.ค.นี้จะครบ 2 พันกว่าสถานีฐาน


//ได้ยินว่ากำลังจะไปตปท.

ไปอเมริกา เรามีออฟฟิศอยู่ที่ซิลิคอนวัลเล่ย์ ทำเรื่องเทคโนโลยี และแอพพลิเคชั่นต่างๆ เป็นทรู สาขาอเมริกา มีคนแค่ 5-6 คน เป็นฝรั่งหมดเพิ่งเริ่มเอง อีกที่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ เพิ่งเริ่มทั้งคู่จะค่อนข้างไปในเรื่องการทำเดเวลล็อปเม้นท์ การวิเคราะห์ข้อมูล รีวิวสิ่งที่ทำในเมืองไทย


//คิดนานไหมถึงตอบโต้ดีแทคเรื่องต่างด้าว

นานเหมือนกัน เคยคิดตั้งแต่ก่อนประมูลคลื่น 3G แล้ว แต่ตัดสินใจว่า ไม่ฟ้อง คิดว่า ไปแข่งประมูลกันดีกว่า จนดูแล้วว่าเขาใช้กม.มายับยั้ง 3G จึงเฉยไม่ได้

ถ้าไม่ฟ้องกลับ ก็เหมือนกับนักมวยที่ป้องกันอย่างเดียว ยังไงเขาก็ต้องเจอจุดอ่อนเราจนได้ ผมไม่ได้หมายถึงตัวสัญญานะ แต่อาจเป็นเรื่องที่ทำให้เราขาดความชอบธรรมในสายตาสาธารณะหรืออะไรก็แล้วแต่ เหมือนเราเป็นผู้ร้าย
มาว่า เราผิดกม. ตัวคุณเองนั่นแหละผิด ถ้าอยู่เฉยไม่ทำอะไร ในทางพับลิกเราเป็นจำเลยแต่ผู้เดียว


//เลยกลายเป็นบ.ขี้ฟ้อง

เรื่องนี้ไม่สามารถกระโดดไปที่ศาลเลย ต้องไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วถึงจะไปศาล ทรูเสียอยู่แล้วตั้งแต่ต้น ถูกฟ้องศาลปกครอง นักวิชาการ สื่อ ฯลฯ โจมตีทุกทาง พรรคฝ่ายค้านก็ด้วย เราเป็นจำเลยสังคมอยู่แล้ว สิ่งที่เราทำก็เพื่อให้ประชาชนมองเห็นอีกมุมว่า บริษัทที่มานั่งฟ้องคนอื่น ตัวเขาเองก็ทำผิดกม.ไทย เขาเลือกวิธีฟ้องก่อน ถ้าเขาไม่ฟ้องเรา วันนี้เราก็ไม่ฟ้องเขา


///สรุปคือเขาเริ่มก่อน

จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่เป็นการชี้ประเด็นให้เห็นด้วยว่า จริง ๆ แล้วบริษัทต่างชาติที่มาโจมตีบริษัทไทยว่าทำผิดกม. ก็ทำผิดกม.ไทย ชี้ให้เห็นว่าเป็นต่างชาติและพยายามดึงเรื่อง 3G ซึ่งมีประโยชน์กับคนไทย

ตอนนี้ถือว่ากระบวนการได้เดินหน้าแล้ว ที่พาณิชย์สรุปออกส่งให้ตำรวจ เป็นการชี้ว่า มีข้อเท็จจริงว่าเป็นต่างชาติ กรมพัฒนาธุรกิจกาาค้า มีหน้าที่รับข้อมูล ซึ่งเดิมเป็นข้อมูลชั้นเดียว แต่ตรงนี้ 5 ชั้น ซึ่งเป็นเรื่องของตำรวจ ก.พาณิชย์จะตัดสินเรื่องนี้เองเป็นเรื่องยาก อาจมีคนท้าทายด้วยว่า มีหน้าที่ตัดสินหรือเปล่า

ที่เราทำเป็นเพียงแจ้งความกล่าวโทษ ถือว่ายังไม่ได้ออกโรงฟ้องอะไรเลย ตอนดีแทคฟ้อง บริษัทรู้สึกกดดันมาก เรียกว่า เหยียบเบรกแบบผ้าเบรกสึก


///ดราม่ามาก

คนในองค์กรเราคิดแบบนั้นจริงๆ สื่อมองเข้ามาอาจมองว่าเครือเรามีพลังเยอะ เป็นอีกฟิลลิ่ง เหมือนเราไปรังแก แต่ถ้ามองจากข้างในออกไป เรามองว่าเทเลนอร์มีพลังมหาศาลระดับประเทศ เขาผ่านมาแล้วหลายประเทศ ต่อสู้มาหลายประเทศ และฟ้องร้องถึงที่สุด

เรามองว่า เขาต้องเตรียมมาเต็มที่ถึงกับเปลี่ยนผู้บริหาร ถ้าศาลตัดสินว่าให้หยุด เราก็จบเลยนะ ทั้งบริษัททั้งประเทศหยุดหมด และรับรองว่า คู่แข่งไม่มีใครเร่งทำ 3G แต่วันนี้เขารู้ว่า หยุดไม่ได้จึงทำเต็มที่

ที่ผ่านมาเราทำใจไว้ระดับหนึ่งว่าอาจเจอฟ้อง แต่ไม่คิดว่าจะถูกหยุดบริการ เพราะเชื่อว่า ทำมาถูกต้อง และไม่คิดว่ากระแสจะพลิกจนกลายเป็นเป้า

ถึงบอกว่า มีความกดดันสูงมาก โอกาสแพ้มี ไม่ได้แพ้เพราะทำความผิด แต่เพราะกระแส บอร์ดทรูอนุมัติให้ซื้อฮัทช์ 6,300 ล้านบาท ทั้งบอร์ดทั้งทีมผู้บริหาร ซีเรียสมาก ถ้าเกิดอยู่ดีๆ จะมาบอก invalid