คลื่นเทคโนโลยี กระแทกโครมเข้าหาหลายคนอย่างไม่หยุดยั้ง "กรุงเทพไอที" มีบทสัมภาษณ์ของผู้แหวกว่ายในกระแสคลื่นลมแห่งเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนคลื่นเทคโนโลยีกระแทก โครมเข้ามาหาหลายๆ คนอย่างไม่ยอมหยุดยั้ง แรงกระทบที่เกิดขึ้นหลายคนซวนเซ แต่บางคนก็เกาะกระแสคลื่นฟันฝ่าไปข้างหน้า และหลายๆ คนลอยตัวได้เหนือน้ำ หากย่อมมีบ้างที่จมหายไปในเกลียวคลื่นแห่งยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเช่นทุกวันนี้ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น "กรุงเทพไอที" มีบทสัมภาษณ์ของผู้แหวกว่ายในกระแสคลื่นลมแห่งเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนผ่าน

นายมนู อรดีดลเชษฐ์ ประธานกรรมการนโยบายไอซีที มหาวิทยาลัยศรีปทุม กูรูแห่งอุตสาหกรรมไอซีที กล่าวว่า เทคโนโลยีกำลัง เปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว ซึ่งภาคเอกชนหลายๆ รายในอุตสาหกรรมไอซีทีกำลังปรับตัว หากการปรับตัวจะเป็นไปอย่างสะเปะสปะไร้ทิศทาง ขึ้นอยู่กับใครมองแนวทางไหนก็ปรับตัวไปในทางนั้น

นโยบายรัฐต้องชัดเจน
เหตุ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะช่วงเวลาประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยไร้นโยบายไอซีทีที่ชัดเจน เอกชนจึงต้องดิ้นรนไปโดยลำพัง หากรัฐบาลมีนโยบายไอซีทีที่ชัดเจน เอกชนจะสามารถวางแผนธุรกิจให้สอดรับกับนโยบายรัฐได้ ทิศทางการลงทุนทั้งประเทศจะก้าวไปอย่างมั่นคงได้ โดยมีเอกชนเป็นฝ่ายลงทุน ไม่ต้องรองบประมาณจากภาครัฐซึ่งอาจไม่ทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะภาครัฐอาจต้องใช้งบประมาณการลงทุนไปเพื่อกิจการอื่นๆ อีกมาก แต่ยืนยันว่า นโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็น เพื่อจะก้าวไปแข่งขันกับนานาประเทศได้

การกำหนดนโยบายไอซีทีของ รัฐบาลใหม่ต้องชัดเจน คำนึงถึงระยะยาวขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศอีก 4 ปี 8 ปีข้างหน้า ไม่ใช่ผลระยะสั้นเพื่อหาเสียงเท่านั้น ต้องมุ่งผลักดันชาติ ด้วยแนวคิดของศตวรรษที่ 21 ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ไม่ใช่คิดและวางแผนบนศตวรรษที่ 20 เมื่อาลงทุนด้านไอซีทีก็จะไม่เกิดผลที่ดี เพราะเทคโนโลยีก้าวไปไกลแล้ว

พร้อม กันนี้ นายมนู ยกตัวอย่างประชาคมอาเซียน ที่ได้วางแผนแม่บทไอซีที 2015 (2558) ซึ่งสอดคล้องกับบริการออนไลน์ยุคใหม่ สร้างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างพลังให้ประชาชน พัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับนวัตกรรมยุคใหม่ที่สร้างสรรค์ มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับที่ชัดเจน ปลอดภัยภายในขอบเขตของกฎหมาย สร้างโอกาสการเข้าถึงของประชาชนลดช่องว่างสารสนเทศให้แคบเข้ามาด้วยไอซีที ที่ราคาต่ำและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เข้าถึงได้ง่าย

ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยควรต้องพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้สอดคล้องกับนวัตกรรมที่ ก้าวไปไกล ต้องเปิดโอกาสให้ธุรกิจแข่งขันได้สมบูรณ์แบบ หาจุดเด่นของธุรกิจให้ได้แล้วส่งเสริมแพร่กระจายไปยังช่องทางที่เปิดอยู่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเชื่อถือต่อผลิตภัณฑ์ของประเทศให้แข่งขันในเวทีโลก ได้

ดาต้ามาแรง
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น บอกว่า ยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจาก 2 จีไปเป็น 3จี ต่อไปคนจะใช้ดาต้ามากขึ้น ผู้ประกอบการจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนจากดาต้ามากขึ้น ช่วงแรกๆ ที่ 3จีเกิดทั้งปีนี้ และปีหน้าอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ หรือแฮนด์เซ็ตน่าจะบูมก่อน เปลี่ยนถ่ายแฮนด์เซ็ตกันก่อน คนจะหันมาใช้สมาร์ทโฟน เล่นคอนเทนท์ อินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น กันมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ต่อเลขหมายที่มาจากดาต้าจะดีขึ้น

"ไม่ใช่ว่า ทุกเครื่องทุกคนจะเปลี่ยนมาเป็นสมาร์ทโฟนทั้งหมด แต่หมายถึงคนทำงาน คนระดับออฟฟิศ เล่นเน็ตได้เข้ามากันเยอะขึ้น ซึ่งสามารถ ไอ-โมบาย ก็เตรียมตัวรองรับตรงนี้ ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ทำคอนเทนท์รองรับ ส่วนใหญ่ยังเน้นบันเทิง กีฬา พยากรณ์ และข่าวสาร และเริ่มแรกก็จะออกแฮนด์เซ็ต 2 ซิมที่ใช้ได้ทั้ง 2 จี และ 3จีในเครื่องเดียวมาก่อน"

พร้อมระบุว่า ตลาดจะไม่ใช่ผู้ใช้รายใหม่ แต่เป็นรายเดิมที่ใช้มือถืออยู่ 60 ล้านราย อาจเปลี่ยนมาสู่สมาร์ทโฟน แทบเล็ต ใช้งานดาต้า 20-30 ล้านราย อีก 30-40 ล้านรายยังคงใช้งานวอยซ์เช่นเดิม

เขา เห็นว่า ภาพอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะชัดเจนขึ้นเมื่อ กสทช. เกิด หากก็เชื่อว่า ผู้เล่นในอุตสาหกรรมยังคงเป็นรายเก่า ความวุ่นวายรอบใหม่ของอุตสาหกรรมจะเกิดขึ้นรอบอีก 3-4 ปีข้างหน้า เมื่อสัญญาสัมปทานเดิมหมดอายุ ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรก็อุปกรณ์ที่มีอยู่เดิมซึ่งเป็นรูปบีทีโอ (Build Transfer Operate) บมจ.ทีโอที และบมจ.กสท โทรคมนาคม จะทำอย่างไร จะเดินหน้าธุรกิจอย่างไร หากอนาคตนั้น ผู้ประกอบการทั่วโลกจะใช้งานเทคโนโลยีได้ทั้ง 2จี และ3จีควบคู่กัน

แอ๊ปเปิ้ลแอฟเฟกต์
สภาวการณ์ ที่เกิดขึ้น นายวีระ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสวีโอเอ เรียกว่า เป็นปรากฏการณ์แอ๊ปเปิ้ล แอฟเฟกต์ และเชื่อว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีก 5 ปี ผู้ใช้ต่างต้องการมีส่วนร่วมสัมผัสประสบการณ์แอ๊ปเปิ้ล เรียกได้ว่า สินค้าอะไรถ้าติดแบรนด์แอ๊ปเปิ้ลล้วนกระแสแรง ปากต่อปาก และข่าวสารข้อมูลที่ออกมา ทำให้ผลิตภัณฑ์แอ๊ปเปิ้ลชิงส่วนแบ่งตลาดไปจำนวนมาก ทั้งแทบเล็ต ไอแมค ไอบุ๊ค ไอโฟน

"อย่างไอแพดเปิดตัวมา 2-3 ปี มียอดขายมากกว่า 30 ล้านตัว ถือเป็นตัวเลขที่น่ากลัว ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ค่ายพีซีทำไม่ได้ ของพีซีเปิดตัวมา 3 เดือน ลดราคา 3 พันบาท มีงานอีกทีลดไปอีก 2 พันบาท ขณะที่ แอ๊ปเปิ้ล มีอิทธิพลมากขึ้นๆ ความต้องการตลาดมีมากกว่าความคาดหมาย และถึงแม้สินค้าบางตัวไม่ได้ออกตลาดเป็นเจ้าแรกก็ตาม เช่นสมาร์ทโฟน แต่ผลิตภัณฑ์จะเป็นอินทิเกรเตด โทเทิล โซลูชั่นรองรับ"

ปรากฏการณ์ นี้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ที่ชีวิตอยู่บนเว็บ จากเดิมใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน แต่ปัจจุบันมากกว่า 60% อ่านข้อมูลและคอนเทนท์บนเว็บ พฤติกรรมการใช้งานเปลี่ยนไป ไม่ถือโน้ตบุ๊คเหมือนเดิม แต่หันหาแทบเล็ต หรือสมาร์ทโฟน เพราะไม่ได้ต้องการเครื่องมือสร้างผลผลิต แค่เพียงรับ-ส่งข้อมูลเท่านั้น