ทรูออนไลน์ทุ่มเงินกว่า 5,000 ล้านบาทขยายโครงข่ายบรอดแบนด์ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ 'อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต' ปูพรหม 19 จังหวัดทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ ตั้งเป้าลูกค้าเพิ่มอีก 2 แสนราย

นายวิเชาว์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ ทรูออนไลน์ และหัวหน้าคณะผู้บริการกลุ่มด้านปฏิบัติการโครงข่าย เทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาทรูออนไลน์มีลูกค้าใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศประมาณ 1.2 ล้านราย และมีสัดส่วนในแง่มูลค่าตลาดสูงถึง 40%

"ลูกค้าที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต ทรูมีค่าบริการต่อคนต่อการใช้งานสูงที่สุดในกลุ่มผู้ให้บริการทำให้มีสัด ส่วนในแง่ของมูลค่าเป็นอันดับ 1 ในตลาด แต่ถ้ามองถึงจำนวนผู้ใช้งานทั่วประเทศที่มีประมาณ 3.4 ล้านราย ทรูออนไลน์จะมีส่วนแบ่งประมาณ 36% เช่นเดียวกับองค์การโทรศัพท์"

ขณะที่ จำนวนผู้ใช้ในเขตกรุงเทพฯและปริมณทลที่มีผู้ใช้ราว 1,76 ล้านราย ทรูออนไลน์จะมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 65% ตามมาด้วยองค์การโทรศัพท์ (ทีโอที) ที่ 19% และ 3BB ที่ 13%

ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อคนต่อการใช้ งาน (ARPU) ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2011 ในกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของทรูออนไลน์แบบ xDSL (ผ่านสายโทรศัพท์) จะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 706 บาท ส่วนการใช้งานผ่าน docsis 3.0 หรือผ่านสายเคเบิลจะมีค่าใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 870 บาท

นายวิเชาว์ กล่าวต่อว่า ในการลงทุนเพื่อขยายโครงข่ายการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศนั้น ปีนี้กลุ่มทรูวางงบไว้ที่ราว 5,000 ล้านบาทในการขยายบริการเคเบิลให้ครอบคลุม 1.5 ล้านจุด กระจายไปยัง 19 จังหวัด ประกอบไปด้วย ที่มีให้บริการแล้วคือ กรุงเทพฯและปริมณทล เชียงใหม่ โคราช หาดใหญ่ ขอนแก่น ระยอง ภูเก็ต และจะพร้อมให้บริการในปลายปีนี้ที่ พัทยา-ชลบุรี อุบลราชธานี อุดรธานี สงขลา ลำปาง และนครสวรรค์

"ทรูเริ่มลงทุนในการขยายโครงข่ายให้บริการตั้งแต่ปลายปีที่ ผ่านมา ด้วยงบกว่า 6,000 ล้านในปีที่แล้ว และอีก 5,000 ล้านในปีนี้ และตั้งเป้าผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 1.2 ล้านราย เป็น 1.4 - 1.5 ล้านรายทั่วประเทศ"

โดยในเขตต่างจังหวัดยังมีจำนวนผู้ใช้งานทรูอินเทอร์เน็ตน้อย เนื่องจากในประเทศไทยที่มีประชากรอยู่ราว 20 ล้านหลังคาเรือน มีเบอร์โทรศัพท์เข้าถึงเพียง 7 ล้านหลังคาเรือนเท่านั้น จึงทำให้ทรูต้องมีการลงทุนในการขยายการให้บริการอินเทอร์ผ่านเคเบิลมากขึ้น

"แม้ว่าจะมีการลงทุนขยายพื้นที่ให้บริการเคเบิลเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าสัดส่วนผู้ใช้งานระหว่างสายโทรศัพท์ และเคเบิลยังคงอยู่ที่ ประมาณ 9 ต่อ 1 หรืออาจะเปลี่ยนเป็น 8 ต่อ 2 ต่อไปในอนาคต"

ทั้งนี้ ภายในงบประมาณดังกล่าวยังรวมถึงการขยายพื้นที่ให้บริการ Wi-Fi Hotspot จากเดิมที่มี 3 หมื่นจุดในเขตกรุงเทพฯและปริมณทล เป็น 6 หมื่นจุดภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเน้นพื้นที่ตามต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ รวมถึงมีการอัปเกรดเทคโนโลยีให้รองรับความเร็วสูงสุดถึง 50 Mbps จากเดิมที่ให้บริการเพียง 8 Mbps