 |
 |
 |
 |
ข่าว |
 |
 |
|
 |
 |
"Think Local Act Global" ถอดรหัส "เวลคอม" ผ่าน Si2i
หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อบริษัท Si2i มาก่อน กระทั่งเข้ามาซื้อกิจการมือถือเฮาส์แบรนด์ "เวลคอม" เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา Si2i มีเฮดออฟฟิศที่สิงคโปร์ แต่มีฐานการผลิตในอินเดียและจีน ที่ไม่ธรรมดาก็คือบริษัทนี้กว้านซื้อหุ้นบริษัทมือถือโลคอลแบรนด์ในประเทศ แถบ อาเซียนมาแล้วหลายแห่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาทิ ในอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งหลังการควบรวมจะมีการเพิ่มอักษร "S" นำหน้าแบรนด์เดิม เช่น S Wellcom เป็นต้น
อนาคตของเวลคอม แผนธุรกิจและการต่อจิ๊กซอว์ของ Si2i ในแต่ละประเทศจะเป็นไปในทิศทางใด "ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยกับ "ดร.บี.เค. โมดี้" ประธานบริษัท Si2i ดังนี้
- เป้าหมายธุรกิจของ Si2i
เราจะครอบคลุมตลาดตั้งแต่ เขตไอวอรีโคสต์ถึงอินโดนีเซีย คือทวีปแอฟริกา, อินเดีย และอาเซียน เนื่องจากประเทศแถบนี้มีประชากรกว่า 50% ของทั้งโลก และมีประชากรที่เป็นวัยรุ่นมากกว่า 65% ของทั้งโลก เป็นประเทศกำลังพัฒนาและมีประชากรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะน้อยกว่า 10% เพราะโครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อม แต่ประชากรส่วนใหญ่ติดต่อกันด้วยมือถือกว่า 90%
ปัจจุบันการเปลี่ยน แปลงของเทคโนโลยีความเร็วโทรศัพท์มือถือจาก 2 จี ไปเป็น 2.5 จี 3 จี หรือ 4 จี มีต้นทุนถูกลงเรื่อย ๆ โมบายล์อินเทอร์เน็ตจึงมีโอกาสเกิดในประเทศเหล่านี้แทนการใช้อินเทอร์เน็ตบน พีซี แต่มือถือที่เชื่อมอินเทอร์เน็ตจากแถบยุโรป, อเมริกา, ญี่ปุ่น หรือเกาหลี มักมีราคามากกว่า 100 เหรียญสหรัฐ เราจึงจะนำเสนอมือถือที่มีฟังก์ชั่นเชื่อมอินเทอร์เน็ตได้ในราคาไม่เกิน 50 เหรียญ (1,500-2,000 บาท) และใส่คอนเทนต์ท้องถิ่นของแต่ละประเทศเข้าไป เรียกว่าทำสินค้าเป็นระดับท้องถิ่นแต่คุณภาพระดับโลก
- มองเห็นโอกาสอะไรในตลาดแถบนี้
เรา ต้องการทำโทรศัพท์ที่เยาวชนเข้าถึงได้ เน้นจับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น อายุ 8 ขวบขึ้นไป เนื่องจากมีดีมานด์สูง เพราะบริษัทผลิตโทรศัพท์มือถืออื่น ๆ เน้นทำแต่โทรศัพท์ระดับไฮเอนด์ ยังไม่มีใครทำโทรศัพท์ตอบสนองกลุ่มคนอายุน้อย สินค้าในอนาคตของเราจึงเน้นกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้หญิง เราทำงานร่วมกับบริษัทผลิตชิปชื่อเอ็มทีเค ในไต้หวัน ผลิต มือถือที่รองรับฟังก์ชั่นการใช้งานทั่วไป, ฟังก์ชั่นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่วัยรุ่นต้องการ เช่น ถ่ายรูป, ฟังเพลง เป็นต้น
เรามีโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทฟี เจอร์โฟน ซึ่งเป็นมากกว่าโทรศัพท์ปกติ เน้นจับกลุ่มวัยรุ่น มีโทรศัพท์สมาร์ททัชสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้หญิง มีกลุ่มแฟชั่นโฟนสำหรับกลุ่มคนที่ติดตามแฟชั่น และมีแอนดรอยด์โฟน ในอีก 1 ปีต่อจากนี้จะมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกมาอีก 22-25 รุ่น
- ทำไมเข้ามาซื้อแบรนด์เวลคอม ?
เรา ต้องการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แต่ถ้าเข้ามาเองก็ต้องเริ่มจากศูนย์ ทั้งเราต้องการทำธุรกิจจากบริษัทที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย จึงตัดสินใจเข้ามาซื้อเวลคอม เนื่องจากมองว่าแม้เป็นแบรนด์มือถือที่มีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างน้อย แต่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นที่มีศักยภาพ, องค์กรมีพลวัต และบุคลากรมีประสิทธิภาพ
- วางกลยุทธ์ในไทยอย่างไร ?
เน้น ร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ในไทย 3 ราย และช่องทางการตลาดอื่น ๆ ในส่วนโอเปอเรเตอร์จะใช้รูปแบบเดียวกับการทำตลาดในอินโดนีเซีย ซึ่งโอเปอเรเตอร์ต้องการจำหน่ายมือถือที่มีคอนเทนต์พิเศษสำหรับลูกค้าใน อินโดนีเซียโดยเฉพาะ เราจะใช้จุดแข็งที่โทรศัพท์มีคอนเทนต์ท้องถิ่นเข้าไปตอบโจทย์ตรงนี้ ซึ่งต้องเข้าไปทำความเข้าใจกับโอเปอเรเตอร์ในไทยให้เห็นความสำคัญของคอน เทนต์ท้องถิ่นก่อน แล้วเขาจะเข้ามาหาเราเอง
เราจะเปิดแอปสโตร์ของเราเองในไทยปีหน้า จะมีแอปพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์ให้ดาวน์โหลดใช้ฟรี ทั้งจะเปิดศูนย์พัฒนาในไทยด้วย
เรื่องช่องทางการจำหน่ายมีร้านค้าของเวลคอม 5 แห่ง, พาวเวอร์บาย และร้านตู้อีก 2,700 ร้าน กำลังวางแผนขยายช่องทางจำหน่าย
นอก จากนี้ ในเดือน ธ.ค.จะเปิดตัวสมาร์ทฟีเจอร์โฟน 2 รุ่น ได้แก่เฟซบุ๊กโฟน และกูเกิลโฟน ซึ่งเปิดตัวมาก่อนหน้านี้แล้วในอินโดนีเซียและมาเลเซีย ทั้งสองตัวมีราคาประมาณ 50 เหรียญสหรัฐ มีปุ่มลัดเชื่อมการใช้เฟซบุ๊กและกูเกิลโดยตรง เราจะใช้โทรศัพท์ที่มีฟีเจอร์พิเศษนี้กระตุ้นวัยรุ่นในไทยเปลี่ยนมาใช้ โทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
ในแง่ส่วนแบ่งตลาด ปัจจุบันเวลคอมมีส่วนแบ่งประมาณ 5% ในปลายปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มเป็น 15%
- แผนขยายธุรกิจขั้นต่อไป
เป้า หมายต่อไปคือจะเข้าไปในแอฟริกาและแถบตะวันออกกลาง ประเทศเหล่านี้มีความต้องการซื้อมือถือระดับราคา 40-50 เหรียญสูงมาก และกำลังดูตลาดในฟิลิปปินส์และเวียดนาม
นอกจากนี้เราจะพยายามเข้าถึง ตลาดในเมืองเล็ก ๆ ของหลายประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยปีหน้าจะเพิ่มร้านค้าของในเครือ Si2i ในมาเลเซียอีก 400 แห่ง จากปัจจุบันมีร้านค้าปลีกในเครือประมาณ 1,000 ร้าน มีร้านขายแบบตู้อีก 80,000 แห่ง เป้าหมายสูงสุดคือทำให้สินค้าครอบคลุมประชากรในแถบแอฟริกา, อินเดีย และประเทศอาเซียนทั้ง 3,000 ล้านคน รวม 90 ประเทศ
ตอนนี้ เข้าไปทำตลาดแล้วใน 13 ประเทศ ครอบคลุมประชากร 1,500 ล้านคน เราประสบความสำเร็จในอินโดนีเซียและอินเดีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีประชากรเยอะมาก
สำหรับยอดขายมือถือในเครือทั้งหมดอยู่ที่ 1.5 ล้านเครื่องต่อเดือน มีส่วนแบ่งตลาดในแอฟริกา, อินเดีย และอาเซียนประมาณ 8% มีมูลค่าธุรกิจที่ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าภายในปี 2558 จะทำยอดขายได้ 10 ล้านเครื่องต่อเดือน มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศแถบนี้ถึง 15% และ Si2i มีมูลค่าธุรกิจถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
|
 |
 |
 |
 |