"ไอดีซี" ปรับคาดการณ์ยอดจับจ่ายไอทีไทยหลังวิกฤติน้ำท่วม ชี้แย่สุดมูลค่าลด 4% ได้ดาวรุ่ง "มีเดีย แทบเล็ต-สมาร์ทโฟน" กระทบน้อยสุด

"ไอดีซี" เตรียมปรับคาดการณ์ยอดจับจ่ายไอทีไทยไทยหลังวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ ชี้สถานการณ์แย่สุดมูลค่าลด 4% แต่ยังได้อานิสงส์ดาวรุ่ง "มีเดีย แทบเล็ต-สมาร์ทโฟน" กระทบน้อยที่สุด เหตุความต้องการตลาดยังต่อเนื่อง


นายอรรถพล สาธิตคณิตกุล ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัยและที่ปรึกษา ไอดีซี ไทย แลนด์ กล่าวว่า ไอดีซีเตรียมปรับคาดการณ์ยอดใช้จ่ายไอทีของประเทศหลังจากจบปีนี้อีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในไทยส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายไอทีทุกกลุ่ม ซึ่งเดิมคาดการณ์ว่า ปีนี้เมื่อรวมการใช้จ่ายในกลุ่มโทรคมคาดว่าจะมีมูลค่า 487,879 ล้านบาท

ทั้งนี้คาดว่าสถานการณ์น้ำที่เริ่มคลี่คลายจะส่งผล ต่อยอดรวมการใช้จ่ายลดลงราว 2% หรือหากยังยืดเยื้อจนถึงหลังปีใหม่จะส่งผลแย่ที่สุดคือ มูลค่าลดลง 4% ซึ่งเมื่อเทียบกับภาพรวมการใช้จ่ายไอทีจัดว่ายังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากการลงทุนไอทีในกลุ่มองค์กรส่วนใหญ่เป็นดีลระยะยาว แต่อาจจะส่งผลให้การติดตั้งโครงการถูกเลื่อนออกไปเท่านั้น ขณะที่การลงทุนยังคงมีอยู่

ขณะที่เมื่อจำแนกการใช้จ่ายไอทีในกลุ่ม ผู้ใช้ทั่วไปพบว่า ยอดขายพีซีโดยรวมซึ่งเป็นสินค้าหลักที่สะท้อนการใช้จ่ายด้านไอทีของผู้ใช้ ทั่วไปได้มากที่สุดหลังจากเกิดวิกฤติคาดว่าจะมียอดขายลดลงราว 5 แสนเครื่องในไตรมาส 4 ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายพีซี (เดสก์ทอป, โน้ตบุ๊ค, แทบเล็ต พีซีที่ใช้ระบบวินโดว์ส) ลดเหลือ 3.5 ล้านเครื่องจากปกติมียอดขายราว 4 ล้านเครื่องต่อปี

ส่วนแนวโน้มความ นิยมของเทคโนโลยีในปีนี้หลักๆ คือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการทำงานแบบเคลื่อนที่ เช่น คลาวด์ คอมพิวติ้ง, โมบาย โอเอส และโมบาย ดาต้า เซอร์วิส แต่เทคโนโลยีที่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดไทยเท่าที่ควรคือ โซเชียล อนาไลติก หรือระบบการวิเคราะห์การใช้งานเทคโนโลยีโซเชียล มีเดีย และเทรนด์การขายแบบโททัล โซลูชั่น หรืออินทิเกรเต็ด โซลูชั่น เนื่องจากตลาดยังต้องการโซลูชั่นเฉพาะสำหรับการใช้งานมากกว่า

อย่าง ไรก็ตามกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้น้อยที่สุดคือ "มีเดีย แทบเล็ต" และ "สมาร์ทโฟน" ซึ่งคาดว่าจะมียอดขาย 4-5 แสนเครื่อง และ 3.3-3.5 ล้านเครื่องในปีนี้ตามลำดับ

"เรายังไม่เห็นผลกระทบในกลุ่มมีเดีย แทบเล็ต และสมาร์ทโฟน เพราะดีมานด์ในตลาดยังสูงมาก และเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์เป็นส่วนประกอบ แต่ตลาดที่ไม่สดใสคือ มินิ โน้ตบุ๊ค ที่มีแนวโน้มขายได้ 1.5 แสนเครื่องในปีนี้ จากปีก่อนหน้ามียอดขายราว 2 แสนเครื่อง เพราะมีเดีย แทบเล็ตกำลังมาแรงมาก ขณะที่ราคาโน้ตบุ๊คก็ขยับลงมาใกล้เคียงกับมินิ โน้ตบุ๊ค แต่มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดีกว่า" นายอรรถพล กล่าว

นายจาริทร์ สิทธุ นักวิเคราะห์ตลาดพีซี บริษัท ไอดีซี ไทย แลนด์ เสริมว่า ผลกระทบจากโรงงานฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็นฐานผลิตใหญ่ในไทยถูกน้ำท่วมคาดว่าจะส่งผลให้ราคาฮาร์ดิสก์ปรับตัว สูงขึ้น 30-100% ขณะที่ราคาพีซีคาดว่าจะปรับขึ้นมากกว่า 10% ในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า

"ปัญหาขาดแคลนฮาร์ดดิสก์จริงๆ น่าจะเห็นราวไตรมาสแรกของปีหน้า ไม่ใช่ช่วงนี้ เพราะยังมีสินค้าคงคลังอยู่ แต่ก็คาดว่าจะเติบโตช้าในช่วงครึ่งปีแรกเท่านั้น และจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป" นายจาริทร์ กล่าว