เอชพีเมินวิกฤติน้ำท่วม ตั้งเป้าโต 12% ปรับกลยุทธ์ปีหน้า เตรียมส่ง "อีปริ๊นท์" สู่ตลาด

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด (เอชพี) กล่าวว่า ผลการดำเนินการในธุรกิจภาพและการพิมพ์ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ คือภาพรวมเติบโต 12% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งภาวะวิกฤติน้ำท่วมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้า เนื่องจากบริเวณที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง หรือ 7-8 จังหวัดเท่านั้น แต่กำลังซื้อของภาคเหนือและภาคอีสานไม่ได้ปรับตัวลดลง และมีกำลังซื้อตามปกติ

ทั้งนี้แม้จะหลีกเลี่ยงจากวิกฤติน้ำท่วมไม่ได้ แต่เอชพียังได้รับความเชื่อมั่นจากตลาด และยังยืนยันว่าจะไม่ลดเป้าหมายจากเดิม

นายวัตสัน ระบุว่า ปีนี้เอชพีได้เพิ่มพนักงานเพื่อดูแลตลาดต่างจังหวัดโดยเฉพาะ ทั้งระดับผู้บริหาร และผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด ซึ่งบริษัทก็ยังมีแผนจะเพิ่มทีมงานอีกในช่วงครึ่งปีหน้า เนื่องจากตลาดไทยยังมีศักยภาพการเติบโต

ส่วนตลาดคอนซูเมอร์ และภาคการศึกษา แม้ช่วงน้ำท่วมยอดขายจะลดลง แต่ก็เริ่มฟื้นกลับมา เนื่องจากโรงเรียนในต่างจังหวัดส่วนใหญ่เริ่มเปิดเทอม เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

นายวัตสัน เผยว่า สำหรับตลาดองค์กรขนาดใหญ่ในปีหน้าจะปรับกลยุทธ์ไม่เน้นการขายสินค้าและ ผลิตภัณฑ์ แต่จะมุ่งการตลาดแบบ "บิสิเนส โซลูชั่น" หรือให้คำแนะนำกับลูกค้า รวมทั้งขยายตลาดใหม่ในกลุ่มองค์กรขนาดกลาง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากของลูกค้าด้านงานพิมพ์

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์หลักปี 2555 เอชพีจะยังคงเดินหน้าต่อยอดนวัตกรรม "เอชพี อีพรินต์" เพื่อขยายฐานงานพิมพ์ผ่านเทคโนโลยี "คลาวด์ คอมพิวติ้ง" อย่างครบวงจร เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทุกเซคเมนท์ ทั้งกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล และธุรกิจกราฟฟิก โซลูชั่น

"ศักยภาพของตลาดอีพรินต์แม้ว่าตอนนี้อาจจะยังตอบได้ยาก แต่เชื่อว่าการดำเนินการตอนนี้อยู่ช่วงเริ่มต้น จากการประเมินแล้ว ปีหน้าจะมีอุปกรณ์ที่รองรับอีพรินต์กว่า 50 ล้านเครื่องทั่วโลกจากปีที่ผ่านมามีในตลาดราว 10 ล้านเครื่อง" นายวัตสัน กล่าว