โนเกียรับพลาดท่าสมาร์ทโฟน แต่ยังครองที่ 1 ตลาดรวมมือถือไทย เมินแอนดรอยด์ - ไอโอเอสโตแรง เชื่อมีจุดแข็งช่องทางจำหน่าย

โนเกียรับ พลาดท่าสมาร์ทโฟน แต่ยังครองที่ 1 ตลาดรวมมือถือไทย เมินแอนดรอยด์ - ไอโอเอสโตแรง เชื่อมีจุดแข็งช่องทางจำหน่าย - พอร์ทโฟลิโอสินค้า - พันธมิตร เล็งอีก 2-3 ปีหวนคืนผู้เล่นหลักในตลาด ล่าสุด เปิดสมาร์ทโฟน โอเอสวินโดว์ส โฟนซีรีส์ “ลูเมีย” 4 รุ่นรวด

นายแกรนท์ แมคบีธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเกีย ประเทศไทย และตลาดเอเชียเกิดใหม่ กล่าวว่า โนเกียได้ นำสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดว์สเข้ามาทำตลาดไทยพร้อมกัน 4 รุ่นรวด ราคาเริ่มต้น 7,400 บาท ถึง 18,000 บาท มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จได้แน่ แต่อาจต้องใช้เวลาสักพัก

ทั้งนี้ประกอบด้วย โนเกีย ลูเมีย 610 ราคา 7,400 บาท โนเกีย ลูเมีย 710 ราคา 9,000 บาท โนเกีย ลูเมีย 800 ราคา 15,400 บาท และโนเกีย ลูเมีย 900 ราคา 18,000 บาท แต่ละรุ่นมีจุดเด่นเรื่องความละเอียดของกล้อง สีตัวเครื่อง และความสามารถด้านโซเชียล เน็ตเวิร์ค บริษัทตั้งเป้าจับกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งานทุกระดับ ขณะนี้มีวางตลาดแล้วทุกรุ่น ยกเว้นลูเมีย 900 ที่จะเข้าไทยประมาณเดือนมิ.ย.

“เป็น ครั้งแรกที่เรานำสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติกรณ์วินโดว์สเข้าเปิดตลาดไทย ขณะนี้จึงเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เราเองไม่ได้คิดจะวิ่งอยู่แค่ระดับความเร็วเท่านี้ ระหว่างนี้และอนาคตยังมีอะไรที่น่าตื่นเต้นเข้ามาอีก ทั้งคาดว่าหากระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 เปิดตัวอย่างเป็นทางการจะยิ่งทำให้เกมของตลาดเปลี่ยนไป”

เมินแอ๊ปเปิ้ลรุกทุกช่องทาง
เขา กล่าวอีกว่า บริษัทวางการลงทุนไว้จำนวนมหาศาลสำหรับทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในตลาด และเชื่อว่าจะประสบในตลาดไทยได้เหมือนที่สหรัฐ แต่ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์มากกว่า นี้

อย่างไรก็ตาม แม้โครงสร้างตลาดในไทยจะต่างกับสหรัฐที่โมเดลการค้าปลีกได้รับความนิยม มากกว่าบันเดิลเครื่องกับแพ็คเกจร่วมกับโอเปอร์เรเตอร์ แต่บริษัทจะให้ความสำคัญทั้งสองส่วน โดยมีแผนเข้าเจรจาผู้ให้บริการทุกรายเพื่อทำตลาดไปด้วยกัน

“ยอมรับ ว่าการแข่งขันขณะนี้สูงมากทั้งจากการเติบโตที่รวดเร็วของระบบปฏิบัติการณ์แอ นดรอยด์ และความนิยมของไอโอเอส แต่เราเชื่อว่ามีความแข็งแกร่งทั้งด้านคู่ค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงอีโคซิสเต็มส์ที่ดี มั่นใจว่าจะกลับมาเป็นผู้เล่นหลักในตลาดสมาร์ทโฟนได้ใน 2-3 ปีจากนี้” นายแมคบีธ กล่าว

ยันครองอันดับ 1 มือถือไทย
นายแมคบี ธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดว์สเป็นของใหม่ บริษัทจึงยังไม่โฟกัสเรื่องส่วนแบ่งการตลาด แต่จะมุ่งเน้นการให้ผู้บริโภคได้ลองสัมผัสรูปลักษณ์เครื่องและการใช้งานด้วย ตัวเอง ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งมีแคมเปญ “ลูเมีย เซ็นเตอร์” ลักษณะกิจกรรมทางการตลาดในห้างสรรพสินค้า และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

โนเกียยอม รับว่าสมาร์ทโฟนวินโดว์สโฟนยังรองรับภาษาไทยไม่เต็มที่ หากผู้ใช้ต้องการใช้ภาษาไทยต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นจากผู้ผลิตภายนอกเพิ่ม และมีปัญหากับการแสดงผลเว็บไซต์ที่สร้างในบางมาตรฐาน แต่โนเกีย และไมโครซอฟท์ให้ความมั่นใจว่า จะปรับปรุงแก้ไขด้านซอฟต์แวร์นี้แน่นอน

“แม้ บริษัทจะไม่ได้เป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟน แต่ยังคงครองอันดับ 1 ด้านยอดขายตลาดรวมมือถือไทย โดยบริษัทมีวิธีการเก็บข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ต่างจากรายอื่นที่บางครั้ง ไม่ได้รวมตลาดต่างจังหวัดกับกรุงเทพฯ หรือเก็บช่องการค้าปลีกและค้าส่งทับซ้อนกัน”

นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายสนับสนุนนักพัฒนาและระบบนิเวศน์การสื่อสารไร้สาย บริษัทเดียวกัน ระบุว่า ด้านแอพพลิเคชั่นมี “วินโดว์ส โฟน มาร์เก็ตเพลส” ที่คัดสรรแอพพลิเคชั่นกว่า 7 หมื่นตัวที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ใช้ในไทยไว้รองรับ ทั้งบริษัทได้หารือกับโอเปอเรเตอร์ทุกเจ้าถึงความพร้อมในการผลักดันให้เกิด ระบบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายในตัวแอพได้เลย

อับแสงตลาดเกิดใหม่
ขณะที่ ไซเบอร์ มีเดีย บริษัทวิจัยสัญชาติอินเดีย ระบุว่า ในอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดมือถือใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยปริมาณผู้ใช้งานกว่า 900 ล้านคน ช่วงปี 2551-2554 ส่วนแบ่งตลาดของโนเกียลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง ด้วยยอดขาย 31% จากทั้งหมด 183 ล้านเครื่อง

นักวิเคราะห์หลายคน เห็นตรงกันว่า โนเกียล้ม เหลวในการตอบโจทย์ด้านรสนิยมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคชนชั้นกลางที่ เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แถมในตลาดเกิดใหม่ อดีตเจ้าตลาดมือถือโลกอย่างโนเกียยังทำได้ไม่ดีมากพอ จนต้องสูญเสียดีลเลอร์บางรายไป

สถิติจากบริษัทวิจัยสแตรทีจี อะนาไลติคส์ ชี้ว่า เดือนม.ค.-มี.ค. ยอดขายของโนเกียในอินเดียหดตัวลง 62% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดปี 2554 ลดลงจาก 39% เมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้ เหลือ 24%

นายนีล มาวสตัน นักวิเคราะห์ของบริษัทให้ความเห็นว่า ในแอฟริกาก็เช่นกัน ส่วนแบ่งตลาดของโนเกีย ลดลงจาก 62% เมื่อ 2 ปีก่อนเหลือ 51% เมื่อปีที่แล้ว แต่ยังคงนำหน้าเหล่าคู่แข่ง เนื่องจากยอดจำหน่ายที่ดีกว่าของบริษัทในทวีปนี้ แต่โนเกียจำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อหยุดภาวะถดถอยนี้

นักวิเคราะห์หลายคน ตั้งข้อสังเกตว่า โนเกีย อาจจะตอบสนองต่อเทคโนโลยีช้าไป โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่หลายแห่ง ซึ่งช่องโหว่การทำตลาดมือถือธรรมดาของโนเกีย คือ รุ่นหน้าจอสัมผัส หรือทัชสกรีน โดยเมื่อปีที่แล้ว ยอดจำหน่ายมือถือแบบทัชสกรีนอยู่ที่ 105 ล้านเครื่องทั่วโลก

นายเบน วูด หัวหน้าฝ่ายวิจัยของซีซีเอส อินไซต์ ให้ความเห็นว่า โนเกียปล่อย โอกาสให้ซัมซุงและบริษัทอื่นๆ นำหน้าตัวเองไปในตลาดมือถือแบบหน้าจอสัมผัส ขณะที่ราคาของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ลดลง โอกาสของมือถือระบบวินโดว์สจากโนเกียก็เกือบปิดตายไปด้วย