User Online ( 4 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ราคูเท็นคาดยอดขายออนไลน์โต9เท่าได้มือถือแท็บเล็ตหนุน
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ราคูเท็นคาดยอดขายออนไลน์โต9เท่าได้มือถือแท็บเล็ตหนุน

ราคูเท็น คาดยอดขายออนไลน์เติบโต 9 เท่า จากการซื้อขายผ่านมือถือและแท็บเล็ตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ค้าออนไลน์ ชี้ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงช่องทางสังคมออนไลน์ นอหเหนือจากหน้าร้านจริง เพื่อทำแบรนด์ให้แข็งแรง...

ราคูเท็น ผู้ดำเนินเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และใหญ่เป็นอันดับที่สามของโลกเทียบจากยอดขาย และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ตลาดดอทคอม (Tarad.com) เว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ประกาศว่า บริษัทฯ คาดว่าความนิยมในการใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอย่างแพร่หลาย จะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อย 9 เท่าในปีนี้ ขณะที่อุปกรณ์เคลื่อนที่ อาทิ สมาร์ทโฟน กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่สร้างการเติบโตของยอดขายออนไลน์ในปัจจุบัน ราคูเท็นเชื่อว่าการใช้งานอุปกรณ์แท็บเล็ตที่เพิ่มขึ้น จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ค้าออนไลน์อย่างมาก โดยได้เห็นสัญญาณการเติบโตว่า ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะซื้ออุปกรณ์มือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์พีซี

นาย เคนอิจิโร่ นะกะจิมา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอุปกรณ์เคลื่อนที่ บริษัท ราคูเท็น กล่าวว่า เราเห็นได้จากสถิติว่าเมื่อผู้ใช้พีซีเริ่มใช้สมาร์ทโฟนเพื่อซื้อสินค้าออ นไลน์ ยอดการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า และเพิ่มขึ้นอีก 1.5 เท่าจากเดิมเมื่อเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนเพียงช่องทางเดียว และตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.5 เท่า เมื่อลูกค้าใช้แอพพลิเคชั่นของเรา ความสะดวกและประสบการณ์การท่องเว็บที่มีคุณภาพจากการใช้แท็บเลตนั้น ทำให้ราคูเท็นเชื่อว่าจะเห็นการเติบโตของยอดขายผ่านแท็บเลตในระดับใกล้เคียง กัน

นายนะกะจิมา กล่าวอีกว่า การขายสินค้าออนไลน์ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างช่อง ทางการขายให้แบรนด์ต่างๆสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้นการใช้ช่องทางในการขายที่หลากหลายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดย M-commerce นับว่าเป็นช่องทางการขายที่น่าตื่นเต้น และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ในการเลือกใช้ช่องทางดังกล่าวไม่ควรละเลยการบริการที่คำนึงถึงความพึงพอใจ ของลูกค้า เช่นเดียวกับการให้บริการในร้านค้าออฟไลน์ (ร้านที่มีหน้าร้านจริง) ดังนั้นผู้ประกอบการควรสร้างความแข็งแกร่ง ให้แก่แบรนด์ของตนเองผ่านทุกช่อง ทางทั้ง ร้านค้าออฟไลน์ (ร้านที่มีหน้าร้านจริง) อุปกรณ์ไร้สาย และ โซเชียล มีเดีย เพื่อเสนอบริการให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางที่ต้องการ

ABI Research (บริษัทวิจัยการตลาด เอบีไอ) เปิดเผยว่า ภายในปี 2558 การช้อปปิ้งผ่านทางอุปกรณ์ไร้สาย จะสร้างรายได้รวมทั่วโลกเป็นมูลค่ากว่า 163 พันเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 12 ของยอดรายได้จากการขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ผลการวิจัยชิ้นนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของบริษัทวิจัยฟอร์เรสเตอร์ ที่ว่า m-commerce (การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านทางอุปกรณ์ไร้สาย) จะมีมูลค่าถึง 31 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2559 ปัจจุบันแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดย IMS Screen Digest (ไอเอ็มเอส สกรีน ไดเจสท์) คาดการณ์ว่า ภายในปี 2557 จะมีการกระจายสินค้าแท็บเล็ตอีกกว่า 70 ล้านเครื่อง

ขณะที่สำนัก งานสถิติแห่งชาติได้ประเมินมูลค่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซภายในประเทศไทยราว 2 แสนล้านบาทในปี 2553 แต่กลับพบว่ามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่ประกอบธุรกิจ ออนไลน์ ถึงแม้ว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญต่อการช้อปปิ้งตามหน้าร้าน ผู้ประกอบการควรพิจารณากลยุทธ์การใช้ช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อเชื่อมโยงกับ โซเชียล มีเดีย ในเดือนกรกฎาคม 2554 Hitwise (ฮิตไวซ์) ได้สำรวจและพบว่า “fan” หนึ่งคนในเฟซบุ๊กช่วยเพิ่มการแวะชมเว็ปไซต์ร้านค้าได้ถึง 20 ครั้งในเวลา 1 ปี ผู้ประกอบการจึงควรวางแผนการใช้โซเชียล มีเดียประเภทต่างๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เพียงเฉพาะเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ แต่รวมถึงการพัฒนาสินค้าและการบริการอีกด้วย
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.